ไทยตอนบนเย็นลง แต่ยังคงมีฝน ภาคใต้มีฝน 70-80%
19 พฤศจิกายน 2568 15:11 น.
ระทึก ไฟไหม้ที่ประชุม COP30 ต้องอพยพผู้คน การเจรจาหยุดชะงัก 21 พ.ย. 68 10:11 น.
19 พฤศจิกายน 2568 15:11 น.
19 พฤศจิกายน 2568 15:11 น.
18 พฤศจิกายน 2568 13:11 น.
18 พฤศจิกายน 2568 13:11 น.
นายกฤษฎา บุญราช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า วันนี้ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี จะมาตรวจเยี่ยมและหารือข้อราชการ โดยมี ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ (ธ.ก.ส.) และธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (เอสเอ็มอีแบงก์) ร่วมด้วย กระทรวงเกษตรฯ จะรายงานแผนการผลิตภาคการเกษตรของประเทศ และจะประกาศใช้ใน 3 เดือนข้างหน้า ซึ่งมีแนวทางจะประกาศเขตเกษตรเศรษฐกิจ โดยกำหนดว่าควรปลูกพืชหรือทำปศุสัตว์ใดในปริมาณพื้นที่เท่าไหร่ ให้ทำกิจกรรมทางการเกษตรในพื้นที่ที่เหมาะสม (Agri-map) กำหนดแผนการผลิต มีมาตรการอย่างไร ไม่ให้ผลผลิตล้นตลาด จะใช้งบประมาณเท่าไหร่ โดยจะเสนอให้รองนายกรัฐมนตรีพิจารณา 2 แนวทาง คือ ประกาศเต็มพื้นที่ทั้งประเทศหรือทำเฉพาะทดลองในพืชเศรษฐกิจหลัก 3 ชนิด ได้แก่ ข้าว ข้าวโพด และมันสำปะหลัง ในพื้นที่เขตชลประทานภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลาง และภาคอีสาน รวมทั้งพื้นที่ที่สหกรณ์การเกษตรมีความเข้มแข็ง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตร เปิดเผยอีกว่า เบื้องต้น สำหรับข้าว มีแผนปฏิบัติงานภายใต้แผนการผลิตและตลาดข้าวครบวงจร โดยจะลดการทำนาครั้งที่ 2 และ 3 หรือการทำนาปรัง 2-3 ล้านไร่ ให้เกษตรกรปรับเปลี่ยนมาปลูกข้าวโพดและมันสำปะหลัง ส่วนข้าวโพด ที่ผ่านมามีมาตรการจูงใจให้ชาวนาปรับเปลี่ยนไปปลูกข้าวโพด โดยรัฐสนับสนุนไร่ละ 2,000 บาท แต่ไม่ประสบความสำเร็จ ล่าสุดสั่งการวางแผนการผลิตข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ โดยในฤดูนาปรัง 2561 จะลดการปลูกข้าวจากปกติมีพื้นที่ปลูก 12 ล้านไร่ ให้เหลือเพียงครึ่งเดียว ที่เหลือจะส่งเสริมการปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ซึ่งความต้องการใช้ในประเทศมีมากถึง 3.5 ล้านตันต่อปี แต่ผลผลิตยังไม่เพียงพอต้องนำเข้า สำหรับมันสำปะหลัง มอบหมายให้สำรวจความต้องการใช้ทั้งในประเทศและต่างประเทศ แล้วจึงมาวางแผนการผลิต นายกฤษฎา บุญราช กล่าวด้วยว่า ประการสำคัญ ต้องมีมาตรการสร้างความมั่นใจให้เกษตรกรที่ผลิตตามแผนการผลิตภาคเกษตรของประเทศ ว่าจะมีรายได้มากขึ้น ไม่ประสบปัญหาขาดทุนอย่างที่ผ่านมา ซึ่งรองนายกรัฐมนตรีกำชับให้ทำอย่างรวดเร็วที่สุด ให้ทันฤดูกาลผลิตหน้า หลังเก็บเกี่ยวข้าวนาปีแล้ว นอกจากนี้ จะหารือแนวทางพัฒนาอาชีพ และช่วยเหลือเกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการพักหนี้ 3 ปี เพื่อทำให้อาชีพเกษตรกร ซึ่งเป็นอาชีพที่มีความเสี่ยงสูงทั้งภัยธรรมชาติ โรค และแมลงระบาด รวมถึงขายได้ราคาต่ำกว่าต้นทุน เปลี่ยนเป็นอาชีพที่มีมาตรการต่าง ๆ เหมือนมีสวัสดิการรองรับและมีความมั่นคง