สถานการณ์ต่างประเทศ

นายแฌ็ค กาย ลานฟงแทงต์ ยื่นหนังสือลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเฮติ ต่อประธานาธิบดีฌูเวเนล มัวซี หลังเกิดเหตุการณ์รุนแรง และเหตุปล้นลุกลามในหลายพื้นที่ เนื่องจากรัฐบาลประกาศแผนการปรับขึ้นราคาเชื้อเพลิง ได้แก่ น้ำมันเบนซินร้อยละ 38 น้ำมันดีเซลร้อยละ 47 และน้ำมันก๊าด ร้อยละ 51 เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ปลุกกระแสความไม่พอใจของประชาชนครั้งใหญ่ ชาวเฮติ พากันออกมาเดินขบวนตามท้องถนน ทั้งในกรุงปอร์โตแปรงซ์และเมืองอื่น ๆ โดยนำซากปรักหักพังมากีดขวางการจราจร เผารถ ยางรถยนต์ และปล้นร้านค้าหลายสิบแห่ง ส่งผล ให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 4 คน กระทั่งรัฐบาลต้องประกาศยุติแผนการขึ้นราคาน้ำมันอย่างรวดเร็ว ท่ามกลางกระแสวิพากษ์วิจารณ์ เรียกร้องนายกรัฐมนตรีและประธานาธิบดีลาออก หนึ่งในผู้ประท้วง ระบุว่า ปัจจุบันประชาชนทุกข์ยาก อดอยาก ว่างงาน และไม่ปลอดภัยอยู่แล้ว รัฐบาลยังซ้ำเติมคนยากจน ซึ่งมากถึงร้อยละ 60 ที่รายได้ต่ำกว่าวันละ 2 ดอลลาร์สหรัฐ การขึ้นราคาสิ่งของอุปโภคบริโภคแม้เพียงเล็กน้อย แต่ถือเป็นประเด็นอ่อนไหวของเฮติ ซึ่งกู้ยืมเงินจาก กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) เมื่อต้นปี โดยรัฐบาลจำเป็นต้องรัดเข็มขัด ดำเนินการปฏิรูปโครงสร้างและเศรษฐกิจ เพื่อส่งเสริมการเติบโตของประเทศ หนึ่งในเงื่อนไขที่ทำไว้กับ IMF คือ จำกัดการให้เงินอุดหนุนด้านต่าง ๆ เช่น ผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียม นอกเหนือจากการควบคุมอัตราเงินเฟ้อให้ต่ำกว่าร้อยละ 10 เพื่อจัดสรรเงินกองทุนไปใช้ในโครงการอื่น ๆ เช่น การศึกษา