หาดใหญ่ เช้านี้วิกฤตหนัก มวลน้ำก้อนใหญ่ทะลักระลอกสอง
24 พฤศจิกายน 2568 09:11 น.
ราคาทองวันนี้ (24 พ.ย. 68) ปรับลง 150 บาท รูปพรรณบาทละ 63,100 บาท 24 พ.ย. 68 09:11 น.
24 พฤศจิกายน 2568 09:11 น.
21 พฤศจิกายน 2568 10:11 น.
19 พฤศจิกายน 2568 15:11 น.
19 พฤศจิกายน 2568 15:11 น.
ศาลแขวงดุสิต อ่านคำพิพากษาศาลฎีกา คดีหมายเลขดำที่ 254/2547 ที่กรมควบคุมมลพิษ (คพ.) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง 1. กิจการร่วมค้า เอ็นวีพีเอสเคจี หรือ NVPSKG (ศาลมีคำสั่งไม่รับฟ้องตั้งแต่ชั้นไต่สวนมูลฟ้องโจทก์) 2. บริษัท วิจิตรภัณฑ์ก่อสร้าง จำกัด 3.นายพิษณุ ชวนะนันท์ กรรมการบริษัท วิจิตรภัณฑ์ ก่อสร้าง 4. บริษัท ประยูรวิศว์การช่าง จำกัด 5.นายสังวรณ์ ลิปตพัลลภ กรรมการบริษัท ประยูรวิศว์การช่าง 6.บริษัท สี่แสงการโยธา (1979) จำกัด 7.นายสิโรจน์ วงศ์สิโรจน์กุล กรรมการบริษัท สี่แสงการโยธา 8. บริษัท กรุงธนเอนยิเนียร์ จำกัด 9.นายนิพนธ์ โกศัยพลกุล กรรมการบริษัท กรุงธนเอนยิเนียร์ 10.บริษัท เกตเวย์ ดิเวลลอปเมนท์ จำกัด 11.นายรอยอิศราพร ชุตาภา กรรมการบริษัท เกตเวย์ ดิเวลลอปเมนท์ 12.บริษัท คลองด่านมารีน แอนด์ ฟิชเชอรี่ จำกัด 13. นายชาลี ชุตาภา กรรมการบริษัท คลองด่านมารีนฯ 14.นายประพาส ตีระสงกรานต์ กรรมการบริษัท คลองด่านมารีนฯ 15.นายชยณัฐ โอสถานุเคราะห์ กรรมการบริษัท คลองด่านมารีนฯ 16.บริษัท ปาล์ม บีช ดิเวลลอปเมนท์ จำกัด 17.นางบุญศรี ปิ่นขยัน กรรมการบริษัท ปาล์ม บีชฯ 18.นายกว๊อกวา โอเยง สัญชาติฮ่องกง ในฐานะผู้แทนบริษัท ปาล์ม บีชฯ และ 19. นายวัฒนา อัศวเหม อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย (หนีคดีตั้งแต่ปี 2552 ซึ่งศาลออกหมายจับไว้อยู่แล้ว) เป็นจำเลยที่ 1-19 ในความผิดฐานฉ้อโกงการจัดซื้อที่ดิน อ.คลองด่าน จ.สมุทรปราการ เนื้อที่รวม 1,900 ไร่ มูลค่า 1.9 พันล้านบาท เพื่อก่อสร้างบ่อบำบัดน้ำเสียคลองด่าน แต่ที่ดินนั้นกลับเป็นกลุ่มบริษัทจัดหามาแล้ว เป็นคลอง ถนนสาธารณะ และป่าชายเลน และฉ้อโกงสัญญาก่อสร้างฯ มูลค่าประมาณ 2.3 หมื่นล้านบาท จำเลยทั้งหมดให้การปฏิเสธ โดยชั้นไต่สวนมูลฟ้องโจทก์ ศาลพิพากษายกฟ้องในส่วนของกิจการร่วมค้า NVPSKG จำเลยที่ 1 และสั่งประทับรับฟ้องไว้เฉพาะจำเลยที่ 2-19 ศาลชั้นต้นมีคำพิพากษา เมื่อ 12 พ.ย.2552 พิพากษาว่าพฤติการณ์ของจำเลยที่ 2-19 เชื่อมโยง มีการแบ่งหน้าที่กันทำกลุ่มหนึ่ง เป็นผู้รวบรวมที่ดินนำขายให้แก่โจทก์ อีกกลุ่มหนึ่งเป็นผู้ก่อสร้างโครงการซึ่งมีความสัมพันธ์กัน โดยทราบดีอยู่แล้วว่าที่ดินดังกล่าวออกโฉนดโดยมิชอบ แล้วนำมาขายให้โจทก์ใช้ก่อสร้างโครงบ่อบำบัดน้ำเสียคลองด่าน มีเจตนาทำให้โจทก์ได้รับความเสียหาย สั่งจำคุก จำเลยที่ 3, 5, 7, 9, 11, 13-15, 17, 18 และ 19 นายวัฒนา อัศวเหม คนละ 3 ปี ส่วนบริษัทเอกชน จำเลยที่ 2, 4, 6, 8, 10, 12, 16 ให้ปรับรายละ 6,000 บาท โดยระหว่างอุทธรณ์คดี จำเลยที่ 3, 5, 7, 9, 11, 13-15, 17, 18 ได้ประกันคนละ 1 ล้านบาท ส่วน นายวัฒนา จำเลยที่ 19 หลบหนีคดีไปก่อน ศาลจึงมีคำสั่งให้ออกหมายจับและปรับนายประกัน ต่อมา ศาลอุทธรณ์อ่านคำพิพากษาเมื่อ 19 พ.ย. 2556 พิพากษากลับให้ยกฟ้อง เนื่องจากเห็นว่า ช่วงเวลาที่ บริษัท ปาล์ม บีชฯ ซื้อที่ดิน ยังไม่แน่ชัดว่าโครงการก่อสร้างบำบัดน้ำเสีย จะใช้ที่ดินบริเวณ ใด อุทธรณ์ของจำเลยที่ 2-19 ฟังขึ้น ศาลฎีกาพิเคราะห์แล้ว มีคำพิพากษาแก้ ให้จำคุกเพิ่ม นายพิษณุ ชวนะนันท์ กรรมการบริษัทวิจิตรภัณฑ์ก่อสร้าง จำเลยที่ 3 และนายรอยอิศราพร ชุตาภา กรรมการบริษัท เกตเวย์ ดิเวลลอปเมนท์ จำเลยที่ 11 คนละ 6 ปี ฐานร่วมกันฉ้อโกงการซื้อที่ดิน 1.9 พันล้านบาท และฉ้อโกงสัญญาจ้างก่อสร้างโครงการก่อสร้างบ่อบำบัดน้ำเสีย อ.คลองด่าน มูลค่า 2.3 หมื่นล้านบาท จากเดิมศาลอุทธรณ์ยกฟ้อง ส่วนนายชาลี ชุตาภา กรรมการบริษัทคลองด่านมารีนฯ จำเลยที่ 13, นายประพาส ตีระสงกรานต์ กรรมการบริษัทคลองด่านมารีนฯ จำเลยที่ 14, นายชยณัฐ โอสถานุเคราะห์ กรรมการบริษัท คลองด่านมารีนฯ จำเลยที่ 15, นางบุญศรี ปิ่นขยัน กรรมการบริษัท ปาล์ม บีชฯ จำเลยที่ 17 และนายวัฒนา อัศวเหม อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย จำคุกคนละ 3 ปี ตามศาลชั้นต้น กรณีฉ้อโกงการจัดซื้อที่ดิน (รวมจำคุก 7 คน) และให้ปรับ บริษัทวิจิตรภัณฑ์ก่อสร้าง จำเลยที่ 2, บริษัท เกตเวย์ดิเวลลอปเมนท์ ที่ 10 รายละ 12, 000 บาท ที่ร่วมกันฉ้อโกงการซื้อที่ดิน และฉ้อโกงสัญญาจ้างก่อสร้างงาน อีกทั้งปรับ บริษัท คลองด่านมารีน แอนด์ ฟิชเชอรี่ ที่ 12, บริษัท ปาล์ม บีช ดิเวลลอปเมนท์ จำเลยที่ 16 รายละ 6,000 บาท ที่ร่วมกันฉ้อโกงการซื้อที่ดิน (รวมปรับ 4 แห่ง) ส่วนบริษัท ประยูรวิศว์การช่าง, นายสังวรณ์ ลิปตพัลลภ กรรมการบริษัท ประยูรวิศว์การช่าง, นายสิโรจน์ วงศ์สิโรจน์กุล กรรมการบริษัท สี่แสงการโยธา, บริษัท กรุงธนเอนยิเนียร์, นายนิพนธ์ โกศัยพลกุล กรรมการบริษัท กรุงธนเอนยิเนียร์ จำเลยที่ 4,5,7,8,9 (ยกฟ้อง รวม 5 คน) ศาลฎีกาพิพากษายืนยกฟ้องฐานฉ้อโกงสัญญาจ้างงาน และฉ้อโกงการซื้อขายที่ดิน เพราะไม่ได้รับเงินไปกับไม่มีพฤติการณ์ที่เกี่ยวข้องในการกระทำผิด ศาลยังให้ออกหมายจับ นายสิโรจน์ วงศ์สิโรจน์กุล จำเลยที่ 7 ที่ไม่มาศาล โดยไม่เชื่อว่าป่วยจนมาศาลไม่ได้ และนายกว๊อกวา โอเยง สัญชาติฮ่องกง จำเลยที่ 18 ซึ่งได้รับหมายศาลโดยชอบแล้วไม่มา ซึ่งทั้งสองคนนี้ต้องให้ออกหมายจับครบ 1 เดือนแล้ว ถ้ายังไม่ได้ตัวมาศาล จะอ่านคำพิพากษาลับหลัง หลังศาลอ่านคำพิพากษาเสร็จสิ้น ญาติและบุคคลใกล้ชิดจำเลยกว่า 10 คน นำอาหารกล่องมื้อเย็น และยาประจำตัว ฝากไว้ที่เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ เพื่อมอบให้เมื่อจำเลยต้องเข้าเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ และทัณฑสถานหญิงกลาง