สถานการณ์ในประเทศ

เมื่อคืนที่ผ่านมา ที่อาคารผู้โดยสารขาเข้าภายในประเทศ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ สมุทรปราการ นายกิตติพงศ์ กิตติขจร รองผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ในฐานะหัวหน้าชุดปฎิบัติการเฉพาะกิจพิเศษ ภารกิจช่วยชีวิตทีมหมูป่า ที่ติดถ้ำหลวง- ขุนน้ำนางนอน จ.เชียงราย นำกำลังหน่วยซีลนอกราชการ ที่ประจำการในสังกัด ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เดินทางกลับถึงยังสนามบินสุวรรณภูมิแล้ว โดยมีการเดินถือ รูปถ่ายของ จ่าเอก สมาน กุนัน หรือ จ่าแซม วีรบุรุษถ้ำหลวง นำหน้าคณะมาด้วย โดยมีเจ้าหน้าที่การท่าและเพื่อน ๆ ในสนามบินสุวรรณภูมิจำนวนมาก ตั้งแถวรอรับ พร้อมตะโกนต้อนรับด้วยคำว่า Hooyah ลั่นสนามบิน นายกิตติพงศ์ กิตติขจร รองผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ในฐานะหัวหน้า ชุดปฎิบัติการเฉพาะกิจพิเศษถ้ำหลวง เปิดเผยว่า ภารกิจที่ถ้ำหลวงครั้งนี้ สืบเนื่อง มาจากข่าวเกี่ยวกับ 13 ชีวิตทีมหมูป่า ยังติดค้างในถ้ำ และจำเป็นต้องใช้กำลังพล ที่ผ่านการฝึกพิเศษเฉพาะ เช่น หน่วยซีล เข้ามาเป็นกำลังหลักในการปฎิบัติภารกิจ ตนเองในฐานะผู้ควบคุมดูแลเจ้าหน้าที่ชุดลานตระเวนของสนามบินสุวรรณภูมิ เห็นว่าสนามบินสุวรรณภูมิ มีเจ้าหน้าที่ที่ผ่านการฝึกหน่วยรบพิเศษของทางกองทัพเรือ หรือหน่วยซีล ที่ลาออกจากราชการและมาเป็นเจ้าหน้าที่ในสนามบินสุวรรณภูมิ และ ในความดูแลของบริษัทท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท.ทั้ง 6 แห่ง มากกว่า 70 นาย จึงเสนอเรื่องไปยังผู้ใหญ่ที่เกี่ยวข้องเพื่อขออนุมัติส่งกำลังพลไปสนับสนุน และ ทันทีที่ผู้ใหญ่อนุมัติ ตนเองจึงเรียกกำลังพลชุดแรกมาคัดตัว หนึ่งในนั้นคือ จ่าเอกสมาน กุนัน หรือ จ่าแซม ที่จะถูกส่งไปชุดแรก แต่หัวหน้าฝ่าย ของจ่าแซม แจ้งกลับมาว่า จ่าแซม และเพื่อน ๆ รวม 5 คน ยื่นลาพักร้อน และเดินทาง ไปสนับสนุนในพื้นที่ก่อนแล้ว โดยไม่รอคำสั่ง ซึ่งตนเองไม่ได้ขัดข้อง และเร่งส่งกำลังพล ไปเสริมทันที ตั้งแต่วันที่ 5 ก.ค.จนกะทั่งจบภารกิจในวันที่ 10 ก.ค. ซึ่งเป็นวันที่น้อง ๆ ทีมหมูป่าออกจากถ้ำครบทั้ง 13 คน แล้ว ทั้งนี้ การสูญเสียจ่าแซมไปนั้น เป็นเรื่องที่ตนเองและเพื่อน ๆ ในหน่วยงานเสียใจ อย่างมาก แต่ภารกิจต้องเดินหน้าต่อเพื่อความปลอดภัยของน้อง ๆ ตนเองในฐานะ ของหัวหน้าชุด ต้องขอยกย่องและเชิดชูเกียรติให้ จ่าแซม หลังจากนี้ จะเสนอ ผู้บังคับบัญชา ขอความดีความชอบให้ จ่าแซมเพื่อเป็นเกียรติต่อวงศ์ตระกูลต่อไป