สถานการณ์ในประเทศ

บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ บีทีเอส แถลงมาตรการคืนค่าโดยสาร กรณีล่าช้า กรณีเหตุขัดข้องเมื่อช่วงวันที่ 25-27 มิ.ย.ที่ผ่านมา ว่า บีทีเอสกำหนดมาตรการ เพิ่มเติมในการคืนค่าโดยสารกรณีที่เกิดความล่าช้าในช่วงดังกล่าว โดยบัตรโดยสารประเภท เที่ยวเดียว ที่ได้รับในช่วงที่เกิดความล่าช้า สามารถนำบัตรโดยสารมาใช้เดินทางได้ภายใน 14 วัน นับจากวันที่ออกบัตร หากผู้โดยสารไม่ต้องการเดินทางในระบบ สามารถขอคืน เงินค่าโดยสารได้ภายในวันที่ 31 ก.ค. 2561 ส่วนบัตรแรบบิทประเภทเติมเงิน ผู้โดยสารที่ใช้บัตรในช่วงที่เกิดความล่าช้าในช่วงวันที่ 25-27 มิ.ย. 2561 สามารถขอรับเที่ยวเดินทางพิเศษ จำนวน 3 เที่ยว ส่วนประเภทเที่ยวเดินทาง 30 วัน สำหรับบุคคลทั่วไป หรือนักเรียน นักศึกษา สามารถมาขอรับเที่ยวเดินทางพิเศษ จำนวน 6 เที่ยว ทั้งนี้ ให้นำบัตรแรบบิทมาติดต่อขอรับเที่ยวเดินทางพิเศษได้ที่ห้องจำหน่ายตั๋วโดยสาร สถานีบีทีเอสทุกสถานี ตั้งแต่วันที่ 7-31 ก.ค. 2561 เท่านั้น และสามารถใช้เดินทางได้ ภายใน 45 วัน นับจากวันที่มาเติมเที่ยวพิเศษ และจะมีอายุการใช้งานอีก 30 วัน นับจาก การใช้เที่ยวพิเศษเดินทางครั้งแรก นอกจากนี้ บีทีเอส จะดำเนินการเพิ่มเติมกรณีมีการประกาศเหตุรถไฟฟ้าขัดข้อง ทำให้ เกิดความล่าช้าเกิน 30 นาที ซึ่งไม่ได้เกิดจากเหตุสุดวิสัย โดยบัตรโดยสารประเภทเที่ยวเดียว สามารถขอคืนค่าโดยสารได้ที่ห้องจำหน่ายตั๋วภายในวันเดียวกัน หรือ ขอรับบัตรโดยสารกลับไป สามารถนำมาใช้เดินทางได้ภายใน 14 วัน นับจากวันที่ออกบัตร ส่วนบัตรแรบบิท จะไม่ถูกตัดเงินค่าโดยสาร ในกรณีที่เกิดความล่าช้า โดยผู้โดยสารจะต้อง ออกประตูที่เจ้าหน้าที่สถานีกำหนด (กรณีแตะบัตรที่ประตูทางออกปกติ จะถูกตัดเงิน ค่าโดยสารตามปกติ) และประเภทเที่ยวเดินทาง 30 วัน จะไม่ถูกตัดเที่ยวเดินทางในกรณี ที่เกิดความล่าช้า โดยผู้โดยสารจะต้องออกประตูที่เจ้าหน้าที่สถานีกำหนด และบริษัทฯ จะพิจารณาให้เที่ยวเดินทางพิเศษ จำนวน 2 เที่ยวต่อวันที่เกิดความล่าช้า นอกจากนี้ บีทีเอสเตรียมที่จะออกแอปพลิเคชัน BTS SkyTrain ซึ่งจะให้ข้อมูลข่าวสาร เกี่ยวกับรถไฟฟ้าบีทีเอส รวมทั้งแจ้งเหตุขัดข้องในการเดินรถ เพื่อให้ผู้โดยสารทราบล่วงหน้า และสามารถวางแผนการเดินทางได้ คาดว่าแอปพลิเคชันจะพร้อมใช้งาน วันที่ 1 ส.ค.นี้