สถานการณ์ต่างประเทศ

กระทรวงข่าวสารซาอุดีอาระเบีย ออกแถลงการณ์ว่า สตรีชาวซาอุดีอาระเบียสามารถขับขี่รถยนต์ได้เองแล้วอย่างเป็นทางการ นับตั้งแต่วันที่ 24 มิ.ย. นี้เป็นต้นไป หมดยุคการเป็นประเทศเดียวในโลก ที่ไม่อนุญาตให้สตรีขับรถยนต์ด้วยตัวเอง ความเปลี่ยนแปลงครั้งประวัติศาสตร์นี้ เป็นไปตามนโยบายปฏิรูปประเทศ "วิสัยทัศน์ 2030" รวมถึงมาตรการยกระดับสิทธิสตรี ตามแนวพระราชวิสัยทัศน์ของ มกุฎราชกุมารโมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน ซึ่งรัฐบาลประกาศเรื่องนี้ให้สาธารณชนเตรียมตัว ตั้งแต่ เดือนก.ย.ปีที่แล้ว ก่อนการยกเลิกมาตรการห้ามจะมีผลบังคับใช้อย่างเป็นทางการ กระทรวงคมนาคมทยอยออกใบขับขี่ให้แก่สตรีในประเทศ ตั้งแต่ต้นเดือนที่ผ่านมา ผู้สันทัดกรณีคาดว่า ภายในปี 2563 จะมีสตรีซาอุดีอาระเบีย ราว 3 ล้านคน ได้รับอนุมัติใบขับขี่ ความเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญนี้ จะช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศได้อย่างมาก เพราะจะเป็นการเพิ่มโอกาสในการจ้างงานสตรีชาวซาอุดีอาระเบีย โดยมีการประเมินมูลค่าทางเศรษฐกิจ จะเพิ่มขึ้นอีก 90,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ ราว 2.9 ล้านล้านบาท ภายในอีก 2 ปีข้างหน้า นอกจากการอนุญาตให้สตรีสามารถขับขี่รถยนต์ส่วนบุคคลได้ด้วยตัวเองแล้ว รัฐสภาซาอุดีอาระเบีย ยังมีมติครั้งสำคัญ เมื่อปลายเดือน พ.ค. อนุมัติร่างกฎหมายให้การคุกคามและล่วงละเมิดทางเพศต่อสตรีถือเป็นอาชญากรรม ผู้กระทำผิดอาจต้องรับโทษจำคุกสูงสุดเป็นเวลา 5 ปี และปรับเป็นเงินสูงถึง 300,000 ริยัล หรือ ราว 2.63 ล้านบาท รวมถึงการกลับมาอนุญาตให้โรงภาพยนตร์ฉายภาพยนตร์เพื่อการพาณิชย์ได้เป็นครั้งแรก ในรอบ 35 ปี เมื่อกลางเดือน เม.ย. แต่การที่เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงจับกุมพลเมือง 17 คน เมื่อเดือนที่แล้ว ซึ่งในจำนวนนี้ 4 คนเป็นผู้หญิง และถูกดำเนินคดีฐานร่วมกันบ่อนทำลายความมั่นคงของประเทศนั้น เรียกเสียงวิจารณ์อย่างหนัก จากองค์กรสิทธิมนุษยชนหลายแห่งว่า เป็นเพียงข้ออ้างการกวาดล้างกลุ่มคนที่มีแนวคิดเห็นต่างทางการเมือง