หาดใหญ่ เช้านี้วิกฤตหนัก มวลน้ำก้อนใหญ่ทะลักระลอกสอง
24 พฤศจิกายน 2568 09:11 น.
ราคาทองวันนี้ (24 พ.ย. 68) ปรับลง 150 บาท รูปพรรณบาทละ 63,100 บาท 24 พ.ย. 68 09:11 น.
24 พฤศจิกายน 2568 09:11 น.
21 พฤศจิกายน 2568 10:11 น.
19 พฤศจิกายน 2568 15:11 น.
19 พฤศจิกายน 2568 15:11 น.
ศูนย์สำรวจความคิดเห็น “นิด้าโพล” สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ เปิดเผยผลสำรวจความคิดเห็นประชาชน เรื่อง โทษประหารชีวิต ควรหยุดหรือไปต่อ สำรวจระหว่างวันที่ 21-22 มิถุนายน จากประชาชนอายุ 18 ปีขึ้นไป กระจายทุกภูมิภาค ระดับการศึกษา และอาชีพทั่วประเทศ รวม 1,251 หน่วยตัวอย่าง เกี่ยวกับโทษประหารชีวิต ควรหยุดหรือไปต่อไป พบว่า เมื่อถามถึงบทลงโทษที่ผู้กระทำความผิดในคดีร้ายแรงควรได้รับ ระหว่างโทษจำคุกตลอดชีวิต หรือ โทษประหารชีวิต พบว่า ประชาชนส่วนใหญ่ ร้อยละ 80.50 ระบุว่า โทษประหารชีวิต ร้อยละ 18.86 ระบุโทษจำคุกตลอดชีวิต และร้อยละ 0.64 ไม่ระบุ/ไม่แน่ใจ ด้านความคิดเห็นต่อบทลงโทษประหารชีวิต จะมีผลทำให้กระบวนการยุติธรรมของไทย มีความศักดิ์สิทธิ์หรือน่าเชื่อถือเพิ่มขึ้นหรือไม่ พบว่า ประชาชนส่วนใหญ่ ร้อยละ 85.29 ระบุว่า ทำให้มีความศักดิ์สิทธิ์และน่าเชื่อถือเพิ่มขึ้น เพราะแสดงให้เห็นว่ากระบวนการยุติธรรมของไทยมีความเด็ดขาด ทำให้ประชาชนเกรงกลัวไม่กล้าจะกระทำความผิดอีก ขณะที่ ร้อยละ 12.07 ไม่ได้ทำให้มีความศักดิ์สิทธิ์และน่าเชื่อถือเพิ่มขึ้น เพราะกระบวนการยุติธรรมไม่มีความโปร่งใส มีช่องโหว่ทางกฎหมาย และร้อยละ 2.64 ไม่ระบุ/ไม่แน่ใจ สำหรับโทษประหารชีวิต จะทำให้คดีอาชญากรรมลดลงหรือไม่ ประชาชนส่วนใหญ่ ร้อยละ 79.05 ระบุว่า จะทำให้คดีอาชญากรรมลดลง ร้อยละ 15.83 จะทำให้คดีอาชญากรรมเท่าเดิม มีเพียงร้อยละ 2.88 ที่ระบุ จะทำให้คดีอาชญากรรมเพิ่มขึ้น ส่วนโทษประหารชีวิต ควรมีต่อไปหรือไม่ พบว่า ประชาชนส่วนใหญ่ ร้อยละ 92.49 ระบุว่า ควรมีโทษประหารชีวิตต่อไป เพื่อให้เกิดความสงบเรียบร้อย และเป็นบทเรียนเตือนใจให้แก่ผู้กระทำความผิดหรือคิดจะกระทำความผิดเกรงกลัว และเพื่อสร้างความเป็นธรรมให้ครอบครัวที่สูญเสีย ขณะที่ร้อยละ 7.51 ระบุว่า ไม่ควรมีโทษประหารชีวิตต่อไป เพราะไม่ได้ทำให้คดีอาชญากรรมลดลง ควรให้โอกาสผู้กระทำผิด เนื่องจากบางคนอาจจะทำเพราะเหตุบันดาลโทสะ หรือไม่ได้เจตนา และบางส่วนระบุว่าให้จำคุกตลอดชีวิตน่าจะดีกว่า เมื่อถามผู้ที่ตอบว่าควรมีโทษประหารชีวิตต่อไป ผู้กระทำผิดที่ควรได้รับโทษประหารชีวิตมากที่สุด พบว่า ส่วนใหญ่ ร้อยละ 54.45 ระบุว่าคดีฆ่าข่มขืน (ข่มขืนแล้วฆ่าหรือรุมโทรมจนเสียชีวิต) /ร้อยละ 23.95 เป็นผู้ที่กระทำผิดซ้ำในคดีร้ายแรง เช่น ฆ่าคนตาย ข่มขืน ร้อยละ 16.68 คดีฆ่าคนตายโดยเจตนา ตามด้วย คดียาเสพติด คดีก่อการร้าย ทุจริตคอร์รัปชัน