สถานการณ์ต่างประเทศ

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ตลาดหุ้นนิวยอร์ค ปิดที่ 24,461.70 จุด ลดลง 196.10 จุด หรือ -0.80% ส่วนดัชนี S&P 500 ปิดที่ 2,749.76 จุด ลดลง 17.56 จุด หรือ -0.63% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,712.95 จุด ลดลง 68.56 จุด หรือ -0.88% ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กยังคงได้รับแรงกดดันจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับการทำสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและประเทศต่างๆ โดยล่าสุด กระทรวงการคลังของอินเดียประกาศเรียกเก็บภาษีนำเข้าถั่วอัลมอนด์จากสหรัฐในอัตรา 20% และเก็บภาษีนำเข้าวอลนัทจากสหรัฐในอัตราสูงถึง 120% โดยจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 4 ส.ค.นี้ อินเดียยังประกาศเรียกเก็บภาษีสินค้าเกษตรและผลิตภัณฑ์เหล็กของสหรัฐ เพื่อตอบโต้สหรัฐที่เรียกเก็บภาษีเหล็กและอลูมิเนียมจากอินเดียก่อนหน้านี้ ด้านสหภาพยุโรป (EU) ประกาศเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากสหรัฐ ซึ่งรวมถึงสินค้าเกษตร, เหล็ก และอลูมิเนียมจากสหรัฐ คิดเป็นมูลค่าราว 2,800 ล้านยูโร หรือ 3,240 ล้านดอลลาร์สหรัฐโดยจะเริ่มมีผลบังคับใช้ในวันนี้ เพื่อตอบโต้สหรัฐที่เรียกเก็บภาษีเหล็ก 25% และอลูมิเนียม 10% ที่นำเข้าจาก EU ซึ่งมีผลบังคับใช้ไปตั้งแต่เมื่อวันที่ 1 มิ.ย. หุ้นกลุ่มอุตสาหกรรมยังคงได้รับแรงกดดันจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับสงครามการค้า โดยหุ้นโบอิ้ง ร่วงลง 1.5% หุ้นแคทเธอร์พิลลาร์ ดิ่งลง 2.5% หุ้น 3M ลง 1.3% หุ้นยูไนเต็ด เทคโนโลยีส์ ลดลง 1.5% หุ้นเอเมอร์สัน อิเล็กทริก ร่วงลง 1.7% และหุ้นอีตัน คอร์ป ร่วงลงกว่า 2%