สถานการณ์ในประเทศ

เช้าวันนี้ ตามเวลาท้องถิ่น ณ โรงแรม Royal Lancaster กรุงลอนดอน สหราชอาณาจักร ผู้บริหารภาคเอกชนชั้นนำของสหราชอาณาจักร ได้แก่ บริษัท Arup บริษัท HSBC และบริษัท Prudential เข้าพบ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เพื่อหารือเกี่ยวกับแผนการลงทุนในประเทศไทย โดยนายกรัฐมนตรี ชี้แจงถึงนโยบายการส่งเสริมการลงทุนของรัฐบาลว่า รัฐบาลให้ความสำคัญการเข้ามาลงทุนของบริษัทต่างชาติอย่างเท่าเทียม โปร่งใส ตามหลักธรรมาภิบาล เพื่อให้เกิดประโยชน์ร่วมกัน และเร่งขับเคลื่อนการลงทุนให้เกิดผลรูปธรรม รวมทั้งเปิดโอกาสให้มีการแข่งขันอย่างเสมอภาค ขอให้มั่นใจว่าการลงทุนจะเกิดความต่อเนื่อง เพราะมีแผนยุทธศาสตร์ชาติรองรับ นายกรัฐมนตรี ยังย้ำถึงความสำคัญของการลงทุนในพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก หรือ EEC ซึ่งเป็นกลไกขับเคลื่อนทางเศรษฐกิจที่สำคัญของประเทศในอนาคตอันใกล้ โดยมีโครงการการลงทุนสำคัญ ทั้งด้านโครงสร้างพื้นฐานทางน้ำ ทางบก ทางอากาศ อุตสาหกรรมเป้าหมายทางด้านเทคโนโลยีนวัตกรรม และโครงการที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม จึงขอให้บริษัทเอกชนสหราชอาณาจักร เร่งตัดสินใจแผนการลงทุนในพื้นที่ EEC เพื่อเดินหน้าโครงการให้บรรลุเป้าหมายต่อไป ทั้งนี้ บริษัท ARUP เป็นบริษัทที่เข้ามาลงทุนในไทยเกือบ 20 ปี โดยเฉพาะการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ ซึ่งผู้บริหารฯ แสดงความประสงค์ที่จะลงทุนในการพัฒนาโครงสร้างใน EEC และเห็นว่ารัฐบาลได้ดำเนินนโยบายมาถูกทางและถูกเวลาที่จะขับเคลื่อนและพัฒนาเศรษฐกิจในทิศทางนี้ โดยบริษัทจะได้ประสานงานกับผู้เกี่ยวข้องเพื่อเดินหน้าโครงการการลงทุนต่อไป บริษัท HSBC เป็นบริษัทด้านการเงินและการธนาคารที่ใหญ่ที่สุดของโลก ผู้บริหารฯประสงค์จะร่วมมือ PPP ในโครงการในเขต EEC ด้านการเงิน รวมทั้งโครงการอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับเงินทุนและการเงินในประเทศไทยด้วย โดยจะพิจารณาเชื่อมโยงเครือข่ายของบริษัทที่มีอยู่ทั่วโลก ในการเชื่อมต่อการลงทุน ตามที่ไทยเสนอ บริษัท Prudential สนใจจะพัฒนาภาคธุรกิจประกันภัย การพัฒนาดิจิทัลเทคโนโลยี ซึ่งรัฐบาลเห็นว่าจะช่วยสนับสนุนการปฏิรูปประเทศสู่เศรษฐกิจดิจิทัล โดยผู้บริหารบริษัทฯแจ้งว่าได้ร่วมมือกับกระทรวงการคลังของไทยในโครงการดังกล่าว รวมทั้ง สนใจในโครงการด้านการศึกษา