สถานการณ์ในประเทศ

พลตำรวจเอกวิระชัย ทรงเมตตา รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ยอมรับว่า ปัจจุบันเครือข่ายธุรกิจในลักษณะแชร์ลูกโซ่ เริ่มกลับมาแพร่ระบาดในสังคมไทยอีกครั้ง หลังการกวาดล้างเครือข่ายแชร์ลูกโซ่ยูฟันไปเมื่อปี 2558 โดยในรอบ 4 ปีที่ผ่านมา พบมีผู้เสียหายกว่าแสนราย รูปแบบการหลอกลวงยังคงอยู่ในโมเดลเดียวกัน คือ การระดมเงินจากคนหมู่มากด้วยการเสนอผลตอบแทนมูลค่าสูง จากนั้นจะถอนทุนได้หลังจากลงทุนไประยะเวลาหนึ่ง โดยอาศัยกลอุบายทางการลงทุนในแบบที่เป้าหมายแต่ละกลุ่มให้ความสนใจ อาทิ การเข้าถึงกลุ่มวัยรุ่น โดยการชักชวนลงทุนผ่านคริปโตเคอเรนซี่ปลอม หรือธุรกิจแชร์ลูกโซ่ที่ใช้การขายตรงบังหน้า ด้วยการจูงใจที่ตัวเงินผลตอบแทนที่ได้มาโดยง่าย เพื่อการจับจ่ายใช้สอย ส่วนการเข้าถึงกลุ่มคนอายุ 40 ขึ้นไปหรือกลุ่มข้าราชการ จะเลือกลงทุนทางการเงินในฟิวเจอร์ หรือ Forex เนื่องจากต้องการมีรายได้เพิ่มจากเงินเดือน ยืนยัน สํานักงานตํารวจแห่งชาติ ไม่นิ่งนอนใจและดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องอย่างเต็มที่ พร้อมพยายามให้ความรู้ประชาชนถึงกลโกงต่าง ๆ ของธุรกิจแชร์ลูกโซ่อย่างต่อเนื่อง เพื่อไม่ให้ประชาชนตกเป็นเหยื่อ พลตำรวจเอกวิระชัย ทรงเมตตา ยังกล่าวถึงข้อเสนอของสมาพันธ์ต่อต้านแชร์ลูกโซ่ ให้ภาครัฐจัดตั้งหน่วยงานเฉพาะ เพื่อดูแลคดีแชร์ลูกโซ่นั้น เป็นอีกทางออกที่ดี เนื่องจากคดีแชร์ลูกโซ่ จะมีสมาชิกผู้เกี่ยวข้องจำนวนมาก ถ้ามีหน่วยงานเฉพาะ จะทำให้บุคลากรมีเพียงพอและมีความชำนาญเฉพาะทาง มีงบประมาณดำเนินการโดยตรง จะทำให้การดำเนินคดีมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น แต่อาจต้องปรับปรุงกฎหมาย ให้เจ้าหน้าที่รัฐมีอำนาจในการตรวจสอบธุรกิจต้องสงสัยได้ตั้งแต่ต้น เพื่อยับยั้งความเสียหายก่อนขยายวงกว้าง