
อุตุฯ เตือน ช่วง 15-16 ก.ย.นี้ หลายพื้นที่ รวมกทม. ฝนตกหนัก 70%
15 กันยายน 2568 10:09 น.
ราคาน้ำมันดิบ (15 ก.ย.) ปรับเพิ่ม เหตุตลาดกังวลอุปทานน้ำมันรัสเซียปรับลด 15 ก.ย. 68 11:09 น.
15 กันยายน 2568 10:09 น.
12 กันยายน 2568 13:09 น.
12 กันยายน 2568 12:09 น.
12 กันยายน 2568 12:09 น.
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 24,987.47 จุด ร่วงลง 103.01 จุด หรือ -0.41% ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,773.75 จุด ลดลง 5.91 จุด หรือ -0.21% ส่วนดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,747.02 จุด เพิ่มขึ้น 0.65 จุด หรือ +0.01% ดัชนีดาวโจนส์ปิดตลาดร่วงลง เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับการทำสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน โดยเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา รัฐบาลสหรัฐได้ประกาศบัญชีรายการสินค้านำเข้าจากจีนจำนวน 1,100 รายการที่จะต้องถูกเรียกเก็บภาษีนำเข้า 25% คิดเป็นมูลค่ารวม 5 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่จีนออกมาตอบโต้สหรัฐ ด้วยการออกมาตรการเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากสหรัฐ 659 รายการ โดยเรียกเก็บในอัตรา 25% คิดเป็นมูลค่ารวม 5 หมื่นล้านดอลลาร์เช่นกัน หุ้นกลุ่มอุตสาหกรรมร่วงลงเนื่องจากความกังวลที่ว่า สงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีนอาจส่งผลกระทบต่อรายได้ของบริษัทข้ามชาติในภาคอุตสาหกรรม โดยหุ้นโบอิ้ง และหุ้นแคทเธอร์พิลลาร์ ต่างก็ปรับตัวลง 0.9% หุ้น 3M ลดลง 0.4% ด้านหุ้นกลุ่มเวชภัณฑ์ปรับตัวลงเช่นกัน อย่างไรก็ตาม ตลาดหุ้นนิวยอร์กสามารถไต่ขึ้นจากระดับต่ำสุดในระหว่างวัน โดยได้แรงหนุนจากการดีดตัวขึ้นของหุ้นกลุ่มพลังงานและกลุ่มเทคโนโลยี โดยหุ้นในกลุ่มพลังงาน หุ้นมาราธอน ออยล์ พุ่งขึ้น 1.7% หุ้นเชฟรอน ขึ้น 1.5% ส่วนหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี หุ้นเฟซบุ๊ก พุ่งขึ้น 1.2% หุ้นอัลฟาเบท บริษัทแม่ของกูเกิล พุ่งขึ้น 2.1% หุ้นอเมซอนดอทคอม ขึ้น 0.4% หุ้น JD.com บริษัทอีคอมเมิร์ซยักษ์ใหญ่ของจีน ซึ่งเข้าจดทะเบียนซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์ก ปรับตัวขึ้น 0.4% หลังรายงาน ได้รับเงินลงทุนมูลค่า 550 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จากกูเกิล โดยเป็นส่วนหนึ่งของความร่วมมือเป็นหุ้นส่วนเชิงกลยุทธ์ระหว่างสองบริษัทชั้นนำ