สถานการณ์ในประเทศ

พ.อ.หญิงศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เปิดเผยว่า คสช. ยังคงให้ความสำคัญ การป้องกันและปรามทุจริตประพฤติมิชอบทุกรูปแบบ โดยเฉพาะการสนับสนุนสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) ซึ่งตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผบ.ทบ. ในฐานะเลขาธิการ คสช. ได้มอบหมายให้กองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย (กกล.รส.) เข้าสนับสนุน ป.ป.ท.ประจำพื้นที่ ในการตรวจสอบข้อเท็จจริงจากเรื่องที่ได้รับการร้องเรียน รวมทั้งการเปิดศูนย์รับเรื่องร้องเรียนการประพฤติมิชอบของเจ้าหน้าที่ของรัฐ ก่อนส่งผลการปฏิบัติโดยรวมให้ศูนย์อำนวยการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติดำเนินการต่อไป รองโฆษก คสช. เปิดเผยว่า ความร่วมมือล่าสุด คือ การร่วมกันขับเคลื่อนโครงการประสานพลังเฝ้าระวังการทุจริต ของ ป.ป.ท. ซึ่งเป็นโครงการที่หลายภาคส่วนร่วมมือกันเป็นเครือข่ายในการตรวจสอบการทุจริตประพฤติมิชอบ เลขาธิการ คสช. มอบหมายให้กองทัพบก โดย กกล.รส. ร่วมกับกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน ให้การสนับสนุน ป.ป.ท. ในการขับเคลื่อนและตรวจสอบกิจกรรมการสร้างฝายชะลอน้ำเพื่อการอนุรักษ์ดินและน้ำ ตามโครงการไทยนิยม ยั่งยืน จำนวน 1,097 แห่ง ในพื้นที่ 45 จังหวัดทั่วประเทศ ซึ่งการร่วมตรวจสอบมีวัตถุประสงค์เพื่อให้การดำเนินกิจกรรมสร้างฝายชะลอน้ำเป็นไปอย่างถูกต้อง โปร่งใส และเกิดประโยชน์กับประชาชนอย่างเต็มที่ โดยจะมีการจัดประชุมหารือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อกำหนดแนวทางการทำงานร่วมกันในวันจันทร์นี้ การเฝ้าระวังการทุจริตเป็นนโยบายสำคัญของรัฐบาลและ คสช. ที่ต้องการให้ทุกภาคส่วนมีส่วนร่วมตรวจสอบโครงการภาครัฐให้เป็นไปอย่างโปร่งใส สร้างความเชื่อมั่นให้ประชาชน เพื่อป้องกันการทุจริตประพฤติมิชอบได้อย่างมีประสิทธิภาพ