สถานการณ์ต่างประเทศ

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ กล่าวระหว่างการเตรียมตัวเดินทางออกจากแคนาดา ภายหลังเสร็จสิ้นการประชุม สุดยอดผู้นำกลุ่มประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำ 7 ประเทศ หรือ จี 7 เพื่อไปหารือกับ นายคิม จอง-อึน ผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือ ที่ประเทศสิงคโปร์ ในวันอังคารที่ 12 มิ.ย.นี้ว่า มั่นใจในระดับสูงสุดกับสิงคโปร์ซัมมิตครั้งนี้ และเชื่อมั่นว่านายคิม จอง-อึน ต้องการลงมือทำบางสิ่งที่ยิ่งใหญ่ ให้เกิดขึ้น เพื่อสันติภาพและผลประโยชน์ของชาวเกาหลีเหนือ ทรัมป์ กล่าวอีกว่า โอกาสดังกล่าวมาถึงผู้นำเกาหลีเหนือแล้ว แต่เป็นแค่ครั้งเดียวเท่านั้น เพราะเขาสามารถประเมินสถานการณ์ได้ตั้งแต่นาทีแรกที่พบกันว่า การประชุมจะประสบความสำเร็จหรือไม่ หากไม่มีความเป็นไปได้ ก็จะไม่เสียเวลาทั้งของตัวเองและฝ่ายเกาหลีเหนือด้วย อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่า ไม่ว่าผลการพบหารือครั้งนี้จะออกมาเป็นอย่างไร การดำเนินการต่อยอดจากการประชุมครั้งนี้ต้องใช้เวลาและความอดทนอย่างสูง ผู้นำสหรัฐ กล่าวทิ้งท้ายว่า การพูดคุยกับนายคิม จอง-อึน ขึ้นอยู่กับทัศนคติของแต่ละฝ่ายเป็นสำคัญ ไม่ใช่การเตรียมตัว หลังมีกระแสวิจารณ์ว่า เขาพร้อมแค่ไหน สำหรับการประชุมสำคัญระดับนี้ ทรัมป์ อาจสร้างประวัติศาสตร์เป็นผู้นำสหรัฐคนแรก ที่พบกับผู้นำสูงสุดของรัฐบาลเกาหลีเหนือ แต่ยังไม่ใช่ประธานาธิบดีสหรัฐคนแรก ที่ได้รับคำเชิญจากผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือ ให้พบหารือกันแบบตัวต่อตัว โดยย้อนกลับไปเมื่อปี 2543 ประธานาธิบดีบิล คลินตัน ได้รับสาส์นเชิญจาก นายคิม จอง-อิล บิดาของนายคิม จอง-อึน แต่นายคลินตันส่ง นางแมเดลีน อัลไบรต์ รมว.กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐในเวลานั้น ไปเยือนกรุงเปียงยางแทน และถือเป็นเจ้าหน้าที่ระดับสูงสุดคนแรกของรัฐบาลสหรัฐ ที่เยือนกรุงเปียงยาง ล่าสุด นายคิม จอง อึน เดินทางถึงประเทศสิงคโปร์แล้ว และได้เข้าหารือกับ นายกรัฐมนตรี ลี เซียนลุง ของสิงคโปร์ ทันที ก่อนประชุมครั้งประวัติศาสตร์กับ นายโดนัลด์ ทรัมป์