สถานการณ์ในประเทศ

ระหว่างการประชุมผู้ก่อตั้งและผู้สนับสนุนพรรค รวมพลังประชาชาติไทย (รปช.) นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ประธานมูลนิธิมวลมหาประชาชนเพื่อการปฏิรูปประเทศไทย ในฐานะผู้ร่วมก่อตั้งพรรค ได้รับเลือกให้ทำหน้าที่เชิญชวนประชาชนร่วมก่อตั้งพรรค โดยนายสุเทพลุกขึ้นยืนสงบนิ่งครู่หนึ่ง จากนั้นกล่าวพร้อมร้องไห้ว่า นึกถึงผู้เสียชีวิตพี่น้องประชาชนที่เสียสละตัวเองเพื่อชาติ เพื่อแผ่นดิน ใฝ่ฝันจะเห็นประเทศที่มีประชาธิปไตยที่สมบูรณ์ มีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นพระประมุข ใฝ่ฝันเห็นประเทศไทย คนไทยทุกเชื้อชาติทุกศาสนา ใช้ชีวิตร่วมกันอย่างมีความสุข รู้คุณค่า จงรักภักดีต่อแผ่นดิน คนไทยเหล่านั้นได้เสียสละเงินส่วนตัว เสียสละความสุข นอนกลางดินกินกลางถนน ถูกยิง ถูกขว้างระเบิด เจ็บเป็นพันคน ตายหลายสิบคน อยากให้พวกเขาเห็นภาพวันนี้ วันที่พวกเรานึกถึงเขาด้วยความเคารพ ความเสียสละ และวันที่คนอย่างพวกเรา ลุกขึ้นมาประกาศอุดมการณ์ สืบสานปณิธานผู้เสียสละเหล่านั้น แม้จะถูกดูถูกว่าพรรคเพื่อประชาชนไม่มีทางเกิดขึ้นได้ นายสุเทพ กล่าวอีกว่า ที่มีการวิจารณ์กันว่า พรรครวมพลังประชาชาติไทย เป็นพรรคของ กปปส. หรือพรรคของลุงกำนัน หรือต่อให้มีนักการเมืองมาปรามาสมากมาย แต่จะไม่ตอบโต้ ตลอด 4 ปีได้ครุ่นคิดพูดคุยกับผู้คนมาตลอด วิเคราะห์ศึกษาเห็นว่าเป็นโอกาสเดียวที่จะรวมพลังประชาชนคนไทยเพื่อทำการเมืองในประเทศให้เป็นการเมืองของประชาชน และรู้สึกดีใจที่เห็นประชาชนรวมตัวกันทำพรรคการเมืองแบบนี้ นายสุเทพ กล่าวต่อว่า ก่อนหน้านี้ เคยประกาศตัวตัดสินใจลาออกจากการเป็น ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ และตัดสินใจร่วมต่อสู้กับประชาชน โดยไม่รับตำแหน่งทางการเมืองใด ๆ แต่พี่น้องร่วมอุดมการณ์ตั้งพรรคการเมืองเพื่อประชาชน จึงรู้ว่าจะต้องเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของพรรค แม้ว่าจะรู้ดีว่าตัวเองจะเป็นจุดด้อยและจุดอ่อนที่จะถูกโจมตีว่าตระบัดสัตย์ ไม่ยุ่งกับการเมือง ยืนยันจะไม่อยู่เป็นเบื้องหลังพรรคนี้ แต่จะขอยืนหยัดเคียงข้างสมาชิกพรรคและประชาชนทุกคนที่มีอุดมการณ์เดียวกัน จะไม่สนคำวิจารณ์ใด ๆ ขณะเดียวกัน จะไม่ลงสมัครรับเลือกตั้ง ไม่ว่าจะเป็น ส.ส.บัญชีรายชื่อ หรือ ส.ส.แบบแบ่งเขต แต่จะขออาสาเป็นขี้ข้าของประชาชน นำประสบการณ์ทางการเมืองกว่า 40 ปีมารับใช้ประชาชน เคียงข้างตั้งพรรคการเมือง เพื่อให้เป็นพรรคการเมืองพรรคเดียวในประเทศที่ทำเพื่อประชาชนให้เกิดขึ้นให้ได้ และพร้อมจะร่วมเดินไปหาพี่น้องประชาชนทุกจังหวัดทั่วประเทศ ด้วยรองเท้าคู่เดิมที่เคยใส่ร่วมชุมนุม