สถานการณ์ในประเทศ

ความคืบหน้าการจับกุม นายรัตนะ เฮง ผู้ต้องหาสัญชาติกัมพูชา ตามหมายจับศาลอาญา ในความผิดฐาน “นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลอันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายต่อความมั่นคงของประเทศ หรือก่อให้เกิดความตื่นตระหนกแก่ประชาชน” ได้ที่ประเทศกัมพูชา กรณีโพสต์กุข่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ไล่ประชาชนไปเติมน้ำเปล่าแทนน้ำมันดีเซล โดยนำตัวกลับมาสอบสวนที่ กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือ บก.ปอท. ตั้งเเต่เมื่อคืน และสอบปากคำนานกว่า 9 ชั่วโมง ก่อนที่เจ้าหน้าที่กัมพูชา เดินทางมายื่นขอประกันด้วยเงินสด 1 แสนบาท พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ ดีพอ ผู้กำกับการ 3 บก.ปอท. เปิดเผยว่า จากการสอบสวน ผู้ต้องหา ยังให้การปฏิเสธโดยอ้างว่า ไม่มีความรู้ด้านภาษาไทย อีกทั้งก่อนหน้านี้เพื่อนได้ยืม บัตรเครดิตไปรูดเพื่อขอเปิดบัญชีในการลงทะเบียนระบบไอที เพื่อเปิดใช้บริการเว็บไซต์ ในการลงข่าวต่าง ๆ โดยไม่ทราบว่าเพื่อนรายนี้ ลงข่าวที่เกี่ยวกับการโจมตีผู้นำประเทศไทย เเต่ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อในคำให้การ อีกทั้งยังสอบสวนเชิงลึกจนทราบว่า ในประเทศกัมพูชานั้น ไม่มีบทลงโทษและฐานความผิดเกี่ยวกับผู้ที่เสนอหรือเเชร์ข่าวปลอม โดยรายได้จากเว็บไซต์ที่ผู้ต้องหาร่วมกระทำนั้นมาจากยอดวิว หากมีการเเชร์และมียอดวิวที่สูง จำนวนรายได้จะยิ่งเพิ่มขึ้น จึงอาจจะเป็นไปได้ที่ผู้ต้องหารายนี้ และผู้เกี่ยวข้องในการกระทำความผิดจะมีการเเบ่งผลประโยชน์กัน ส่วนการกระทำลักษณะดังกล่าว มีความเกี่ยวข้องกับการเมืองหรือไม่นั้น ผู้กำกับการ 3 บก.ปอท. ระบุว่า จากการสอบสวนยังไม่พบถึงความเชื่อมโยงกับกลุ่มผู้ต่อต้านรัฐบาล คสช. เพื่อก่อกวน ยุยง ให้ประชาชนเกลียดชังรัฐบาล ซึ่งตำรวจตรวจสอบไปยังเฟซบุ๊กส่วนตัวของ นายรัตนะ ก็ไม่พบการเคลื่อนไหวทางการเมืองหรือโจมตีรัฐบาลไทย ขณะนี้ ทราบตัวผู้กระทำความผิดอีกรายเเล้ว คือ นายหลุย อายุ 23 ปี สัญชาติกัมพูชา จากนี้จะประสานเจ้าหน้าที่กัมพูชา ในการเดินทางเข้าไปในประเทศ เพื่อเชิญตัวมาสอบสวน ถึงข้อเท็จจริงในการกระทำความผิดต่อไป