สถานการณ์ในประเทศ

นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ยอมรับว่า การจับกุมพระเถระชั้นผู้ใหญ่ กระเทือนวงการสงฆ์และกระเทือนความรู้สึกของพุทธศาสนิกชนบางคนบางกลุ่ม แต่คงไม่กระเทือนถึงพระพุทธศาสนา เพราะยังมั่นคงดีอยู่ หากมีอะไรเป็นเหตุเภทภัยเข้ามากระทบ ถ้าสามารถลิดรอนหรือกำจัดออกไปได้ จะทำให้พระพุทธศาสนาบริสุทธิ์มากขึ้น ใครถูก ใครผิด ก็ต้องดำเนินการตามกฎหมาย จะไม่ดำเนินการไม่ได้ และสามารถต่อสู้คดีกันไปได้ แต่ถ้าไม่สามารถต่อสู้ให้พ้นไปได้ คดีจะเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมไปสู่ศาล คดีทั้งหมดที่กล่าวหานั้น เป็นการกล่าวหาทางโลก จึงเป็นเรื่องที่ทางโลกต้องจัดการ ถ้ามีเรื่องกระทบในทางธรรมหรือทางศาสนา ทางศาสนาก็ต้องเข้าไปจัดการ ทางศาสนาในที่นี้หมายถึง กรณีที่กระทบต่ออธิกรณ์หรือวินัยสงฆ์ อย่างไรก็ตาม กฎหมายคณะสงฆ์ต้องอยู่กึ่งกลางระหว่างทางโลกกับทางธรรม ซึ่งระบุไว้ชัดเจนแล้วว่า กรณีที่ภิกษุต้องคดีอาญา จะต้องดำเนินการอย่างไร เมื่อถามว่า เรื่องนี้จะทำให้ประชาชนตั้งคำถามหรือไม่ว่า จะสามารถนับถือพระสงฆ์ได้อยู่หรือไม่ เพราะขนาดพระเถระชั้นผู้ใหญ่ยังมีคดีแบบนี้ นายวิษณุ กล่าวว่า ใคร ๆ ก็รู้ว่าเรื่องแบบนี้มีมานานแล้ว แต่ถ้าจะเลิกนับถือพระพุทธศาสนาด้วยเหตุแบบนี้ บรรพบุรุษคงไม่สามารถรักษาพุทธศาสนามาได้ถึงปัจจุบัน เหตุเกิดที่ไหน ก็จัดการตรงนั้นให้จบ บ้านไม่สะอาดก็ต้องปัดกวาดเสีย ถ้าถึงขั้นต้องรื้อบ้าน คงไม่คุ้ม และอย่าถึงขั้นต้องสังคายนาวงการสงฆ์ เพราะคำนี้เป็นคำพิเศษที่หมายความถึงกรณีที่ต้องมีการประชุมพระสงฆ์ เพื่อตรวจสอบพระไตรปิฎก ว่ามีความวิปริตหรือไม่ อย่างไร ซึ่งเป็นเรื่องที่ทำยาก แต่อาจทำคล้าย ๆ สังคายนาได้ คือ ประชุมตรวจสอบตกลงกติกาวิธีปฏิบัติ คิดว่าเรื่องนี้ ทางมหาเถรสมาคม น่าจะนำไปดำเนินการได้ และเหตุการณ์ครั้งนี้เป็นบทเรียนที่ควรตระหนัก สังวร และระมัดระวัง ให้ไปดูจริยวัตรของสมเด็จพระสังฆราชฯ ที่งดงาม ทรงเตือนอะไรก็เป็นปิยวาจา อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้น่าจะต้องกลั่นกรองการแต่งตั้งพระเถระชั้นผู้ใหญ่ด้วย นายวิษณุ กล่าวว่า สำหรับต่างประเทศ เรื่องนี้เป็นเรื่องใหม่ แต่ถ้าสงสัย สามารถชี้แจงได้ว่าไม่ได้กลั่นแกล้ง กระทบสิทธิมนุษยชนหรือไม่ หรือล่วงล้ำเสรีภาพในการนับถือศาสนาหรือไม่ เพราะต่างชาติถือเรื่องนี้ ถ้าอธิบาย 3 ข้อนี้ได้ ก็ไม่มีปัญหา