สถานการณ์ในประเทศ

นายสาคร ปู่ดำ นักวิชาการขนส่งชำนาญการ สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคที่ 5 สาขาภูเก็ต นำเจ้าหน้าที่เข้าตรึงพังงา หรือล็อกพวงมาลัย เรือแสงสมุทร 2 กับเรือแสงสมุทร 3 ซึ่งเป็นเรือประมงอวนลากคู่ ที่จอดเทียบท่าอยู่ที่ “เเพปลาแสงอรุณนอก” ต.รัษฎา อ.เมืองภูเก็ต พร้อมทาสีเพื่อเป็นสัญลักษณ์ว่า “ถูกกักและห้ามเคลื่อนย้าย” เนื่องจากเป็นของกลางในคดีจับฉลามวาฬขึ้นเรือก่อนปล่อยลงทะเล เมื่อ 18 พฤษภาคม โดยจะล็อกไว้จนกว่าการดำเนินคดี จะมีผลสรุป ซึ่งขณะนี้พนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธรฉลอง อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องกับคดีทั้งหมด คาดว่าจะมีผลชัดเจนในสัปดาห์นี้ ผลสืบเนื่องจาก เจ้าหน้าที่สหวิชาชีพ ศูนย์ควบคุมการแจ้งเข้า-ออก เรือประมง เขต 3 (ภูเก็ต) หรือ PIPO (ไป-โป้) แจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สภ.ฉลอง ข้อกล่าวหา “กระทำการอันสงสัยว่าเป็นการฝ่าฝืน พระราชกำหนดการประมง พ.ศ.2559 มาตรา 66 ประกอบกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เรื่องการกำหนดชนิดสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม สัตว์น้ำหายาก หรือใกล้สูญพันธุ์ ที่ห้ามจับ หรือห้ามนำขึ้นเรือประมง พ.ศ.2559 ข้อ 1 อนุฯ 4 ปลาฉลามวาฬ” และกรณีเจ้าหน้าที่สำนักบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 9 ซึ่งได้รับข้อสั่งการจาก อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง เข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สภ.ฉลองเพื่อร้องทุกข์กล่าวโทษเพิ่มเติม นายสมสมัย มีจอม อายุ 55 ปี ผู้ควบคุมเรือ (ไต้ก๋ง) เรือแสงสมุทร 3 และนายรัตนา พรหมงาน ผู้ควบคุมเรือแสงสมุทร 2 ในข้อกล่าวหา “ร่วมกันล่าหรือพยายามล่าสัตว์ป่าสงวน สัตว์ป่าคุ้มครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ประกอบ พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2535 มาตรา 16 ห้ามมิให้ผู้ใดล่า หรือพยายามล่าสัตว์ป่าสงวน หรือสัตว์ป่าคุ้มครอง เว้นแต่เป็นการกระทำโดยทางราชการ” โดยแจ้งเพิ่มเติมจากที่ชุดสหวิชาชีพของ PIPO แจ้งไว้ก่อนหน้า