สถานการณ์ในประเทศ

นายวรวิทย์ สุขบุญ เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. แถลงว่า ตามที่นางระพิพรรณ พงศ์เรืองรอง อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบ กรณีเข้ารับตำแหน่ง กรณีพ้นจากตำแหน่ง และกรณีพ้นจากตำแหน่งมาแล้วเป็นเวลาหนึ่งปี ต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช.นั้น จากการตรวจสอบพบว่า นางระพิพรรณมีทรัพย์สินเพิ่มขึ้น จำนวน 21 ล้าน 5 แสน 34,084 บาท 34 สตางค์ คณะกรรมการ ป.ป.ช.จึงมีมติแต่งตั้งคณะอนุกรรมการตรวจสอบทรัพย์สินและหนี้สิน โดยมี น.ส.สุภา ปิยะจิตติ กรรมการ ป.ป.ช. เป็นประธานอนุกรรมการ พบการทำรายการฝากเงินและถอนเงินออกจากบัญชีจำนวนมาก และยังพบว่านางระพิพรรณซื้อทรัพย์สินระหว่างดำรงตำแหน่งจำนวนมาก อันเป็นการมีพฤติการณ์โอน ยักย้าย แปรสภาพ หรือซุกซ่อนทรัพย์สิน จึงมีคำสั่งอายัดบัญชีเงินฝาก ที่ดิน สิ่งปลูกสร้าง และยานพาหนะ ของนางระพิพรรณ ไว้เป็นการชั่วคราว 4 รายการ รวมมูลค่า 15 ล้าน 5 แสน 45,143 บาท 33 สตางค์ ทั้งบัญชีเงินฝากธนาคารกรุงไทย 1 บัญชี กว่า 8 แสนบาท , ที่ดินในเขตจตุจักร 2 แปลง พร้อมบ้านพักอาศัย มูลค่ารวม 9 ล้านบาท , ที่ดินในอำเภอบ้านโป่ง จังหวัดราชบุรี 1 แปลง มูลค่า 1 ล้าน 5 แสนบาท , รถยนต์ BMW มูลค่า 4 ล้าน 2 แสนบาท นายวรวิทย์ กล่าวต่อว่า คณะกรรมการ ป.ป.ช.ได้พิจารณารายงานผลการตรวจสอบความถูกต้องและความมีอยู่จริง รวมทั้งความเปลี่ยนแปลงของทรัพย์สินและหนี้สิน มีมติว่า นางระพิพรรณ มีทรัพย์สินเพิ่มขึ้นผิดปกติ รวมมูลค่า 42 ล้าน 8 แสน 16,226 บาท 64 สตางค์ เป็นเงินฝากธนาคาร 6 บัญชี จำนวนเงินกว่า 27 ล้าน 6 แสนบาท , ที่ดิน 3 แปลง มูลค่า 9 ล้าน 4 แสน 92,000 บาท , สิ่งปลูกสร้าง 1 หลัง มูลค่า 2 ล้านบาท , รถยนต์ 1 คัน มูลค่ากว่า 1 ล้าน 8 แสนบาท และเงินที่นำมาชำระหนี้เงินกู้ธนาคาร จำนวน 1 ล้าน 9 แสนบาท เลขาธิการ ป.ป.ช. กล่าวด้วยว่า ป.ป.ช. จะต้องส่งเอกสารทั้งหมดที่มีอยู่ พร้อมทั้งรายงานผลการตรวจสอบไปยังอัยการสูงสุด เพื่อดำเนินคดีใน ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง เพื่อให้ทรัพย์สินของนางระพิพรรณ ที่เพิ่มขึ้นผิดปกติ ตกเป็นของแผ่นดินต่อไป ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 38 ทั้งนี้ หากไม่สามารถบังคับคดีเอาต่อทรัพย์สินของนางระพิพรรณ ที่เพิ่มขึ้นผิดปกติดังกล่าว ตกเป็นของแผ่นดินได้ทั้งหมดหรือได้แต่บางส่วนแล้ว ให้ขอให้ศาลบังคับคดีเอาแก่ทรัพย์สินอื่นของนางระพิพรรณ ภายในอายุความ 10 ปี ตามนัยมาตรา 83 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 ด้วย