สถานการณ์ในประเทศ

พล.ท.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม ในฐานะประธานอนุกรรมการประชาสัมพันธ์เพื่อสร้างความสามัคคีปรองดอง เปิดเผยความคืบหน้า การสร้างความสามัคคีปรองดอง ภายหลังพบปะพูดคุยกับประชาชนทั่วประเทศ ผ่าน “โครงการไทยนิยมยั่งยืน” ว่า ประชาชนส่วนใหญ่เห็นถึงความจำเป็นต้องมีสัญญาประชาคมเพื่อสร้างความสามัคคีปรองดอง และเห็นด้วยว่าสัญญาประชาคมจะสามารถช่วยคลี่คลายปัญหาความขัดแย้งและนำสังคมกลับมาอยู่ร่วมกันอย่างสงบและสันติสุข ถ้าทุกฝ่ายร่วมมือยึดมั่นและปฏิบัติตาม หรือร่วมกันนำสาระสำคัญของสัญญาประชาคมมาปรับใช้ในชีวิตประจำวัน อย่างไรก็ตาม ประชาชนส่วนใหญ่ ยังกังวลปัญหาต่าง ๆ ที่อาจนำไปสู่ความขัดแย้งของสังคมในอนาคต เช่น การเมือง การทุจริตคอร์รัปชั่น การไม่เคารพกฎหมาย ปัญหาความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจ การบิดเบือนข่าวสาร การขาดความรู้ความเข้าใจในระบอบประชาธิปไตย ระบบการศึกษา และการบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติ พล.ท.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ กล่าวต่อว่า ที่ผ่านมา สังคมทราบดีถึงความตั้งใจและความพยายามหาทางออกจากความขัดแย้ง ที่ทุกรัฐบาลในอดีตพยายามดำเนินการ แต่ได้รับการปฏิเสธจากคู่ขัดแย้งเสมอมา ดังนั้น กระบวนการสร้างความสามัคคีปรองดองที่รัฐบาลปัจจุบันจัดทำขึ้นเป็นสัญญาประชาคม จึงให้ความสำคัญการมีส่วนร่วมรับฟังประชาชนทั้งประเทศมาวิเคราะห์ ร่วมกับผลการศึกษาทางออกจากความขัดแย้งของทุกรัฐบาลที่ทำมา ซึ่งได้รับความร่วมมืออย่างจริงใจจากทุกฝ่าย วันนี้ กระบวนการสร้างความสามัคคีปรองดองเดินหน้ามาไกลกว่าที่จะกลับไปอยู่จุดเดิม เชื่อว่าประชาชนเบื่อหน่ายและทราบดีถึงสาเหตุหลักของความขัดแย้ง เมื่อเราต่างแสดงตนยึดมั่นในสังคมประชาธิปไตย จึงจำเป็นต้องรับฟังและเคารพต่อความคิดเห็นร่วมของประชาชนส่วนใหญ่ในสัญญาประชาคม ด้วยการแสดงความจริงใจสนับสนุนกระบวนการสร้างความรักความสามัคคีกันในสังคม ร่วมกันคลี่คลายเรื่องที่ยังเป็นกังวลของประชาชน ที่อาจนำไปสู่ความขัดแย้งในอนาคต ด้วยความพยายามเดินหน้าฝ่าแรงเสียดทานที่ยังมีอยู่ไปด้วยความหวังเดียวกัน ประธานอนุกรรมการประชาสัมพันธ์เพื่อสร้างความสามัคคีปรองดอง เปิดเผยด้วยว่า มาสคอต "น้องเกี่ยวก้อย" จะยังเดินหน้าทำหน้าที่สร้างความรักความสามัคคีในสังคมต่อไป โดยวันที่ 24 พ.ค.นี้ เวลา 14.00 น. จะลงพื้นที่สถานีรถไฟหัวลำโพง เพื่อสร้างการรับรู้ ความเข้าใจ และการมีส่วนร่วมของประชาชนในสัญญาประชาคม เพื่อรักษาบรรยากาศความรัก ความสามัคคี จนถึงการเลือกตั้งทั่วไป