สถานการณ์ต่างประเทศ

กองกำลังป้องกันอิสราเอล และชาวปาเลสไตน์หลายหมื่นคน ปะทะกันอย่างดุเดือด ในพื้นที่ฉนวนกาซาและเวสต์แบงก์ ตลอดวานนี้ ซึ่งตรงกับวาระครบรอบ 70 ปี การประกาศ เอกราชของอิสราเอล และสหรัฐใช้โอกาสนี้เปิดสถานเอกอัครราชทูตประจำนครเยรูซาเลม หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศเมื่อเดือน ธ.ค.ปีที่แล้ว รับรองเยรูาเลม เป็นเมืองหลวงของอิสราเอล เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 58 คน และได้รับบาดเจ็บ อีกกว่า 2,700 คน กองกำลังป้องกันอิสราเอล ออกแถลงการณ์ว่า ปฏิบัติด้านความมั่นคงของเจ้าหน้าที่ ตลอดแนวพรมแดนที่ติดกับฉนวนกาซาและเขตเวสต์แบงก์ เป็นไปตามกฎหมายระหว่าง ประเทศ และมาตรฐานสากล จากกลุ่มผู้พยายามก่อความไม่สงบ ด้วยการใช้อาวุธ ร้ายแรงกับเจ้าหน้าที่ และพยายามข้ามพรมแดน ขณะที่ก่อนหน้านั้น นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ผู้นำอิสราเอล กล่าวว่า ทุกประเทศ บนโลก มีอำนาจและสิทธิ์ขาดในการปกป้องพรมแดนของตัวเอง แต่กลุ่มก่อการร้ายฮามาส ซึ่งมีความมุ่งมั่นอย่างชัดเจนในการทำลายอิสราเอล กลับใช้ชาวปาเลสไตน์เป็นโล่มนุษย์ ด้วยการล่อลวงให้ประชาชนจำนวนมาก แสดงการขัดขืนต่อคำเตือนของเจ้าหน้าที่อิสราเอล ด้านโฆษกทำเนียบขาว ปฏิเสธแสดงท่าทีร่วมกับประชาคมโลก ในการประณามเหตุการณ์ ที่เกิดขึ้น โดยกล่าวเพียงว่า เรื่องนี้เป็นความผิดของกลุ่มฮามาส