สถานการณ์ในประเทศ

สำนักวิจัยซูเปอร์โพล และมูลนิธิสถาบันวิจัยความสุขชุมชนและความเป็นผู้นำ เปิดเผยผลวิจัยเรื่อง ทำไมคนไทยดื่มน้ำอัดลม ใครครองส่วนแบ่งการตลาด โดยเก็บข้อมูลจากกลุ่มตัวอย่าง 500 ตัวอย่าง ระหว่างวันที่ 5-11 พ.ค. พบว่า พฤติกรรมการดื่มน้ำอัดลมในรอบ 30 วัน หรือ 1 เดือน กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่ หรือร้อยละ 79.4 ดื่มน้ำอัดลม ที่เหลือร้อยละ 20.6 ไม่ดื่ม เมื่อสำรวจถึงช่วงอายุของผู้ดื่มน้ำอัดลม เพื่อวัดผลว่า วัยใดบ้างที่ดื่มน้ำอัดลม ดื่มมาก ดื่มน้อย และความถี่ในการดื่ม พบว่า ส่วนใหญ่ของกลุ่มวัยรุ่น เยาวชน อายุ 15-24 ปี ดื่มน้ำอัดลมมากสุด ถึงร้อยละ 83 / อายุ 25-45 ปี ดื่มน้ำอัดลมร้อยละ 77 ขณะที่กลุ่มผู้สูงอายุ อายุตั้งแต่ 46 ปีขึ้นไป ดื่มน้อยที่สุด ร้อยละ 50 ส่วนความถี่ในการดื่มน้ำอัดลม กลุ่มผู้ดื่มน้ำอัดลมจำนวนมาก ร้อยละ 41.5 จะดื่มเป็นประจำทุกสัปดาห์ รองลงมา ร้อยละ 37.9 ดื่มบางสัปดาห์ และร้อยละ 20.6 ไม่ดื่มเลย โดยเฉพาะกลุ่มตัวอย่างเพศหญิง ที่กลัวอ้วน จะดื่มน้ำอัดลมน้อยกว่าเพศชาย โดยพบว่า ร้อยละ 46.2 ของเพศชาย จะดื่มน้ำอัดลมเป็นประจำทุกสัปดาห์ ส่วนเพศหญิงที่ดื่มน้ำอัดลมเป็นประจำทุกสัปดาห์ มีสัดส่วน ร้อยละ 38 สำหรับส่วนแบ่งตลาด ของน้ำอัดลมประเภทน้ำดำ หรือน้ำสี พบว่า กลุ่มตัวอย่างเกินครึ่งหรือร้อยละ 57.7 ดื่มน้ำดำ เช่น โค้ก เป๊ปซี่ และเอส ขณะที่ร้อยละ 41.8 ดื่มน้ำสี เช่น แฟนต้า สไปร์ท มิรินด้า และเอส โดยส่วนแบ่งตลาดคนดื่มโค้ก ร้อยละ 58.3 เป๊ปซี่ร้อยละ 37.6 และ เอส/บิ๊กโคล่า ร้อยละ 4.1 ส่วนมักจะดื่มน้ำอัดลมกันตอนไหน ร้อยละ 43 ดื่มตอนอากาศร้อนหรือกระหายน้ำ ร้อยละ 40.4 ดื่มตอนเหนื่อย ร้อยละ 33.2 ตอนรับประทาน ที่ร้านฟาสต์ฟูด ร้อยละ 27.2 ดื่มตอนงานเลี้ยง และร้อยละ 27 ดื่มตอนกินส้มตำ หรืออาหารรสจัด ด้านสาเหตุคนไทยดื่มน้ำอัดลม ร้อยละ 38.6 เพื่อความสดชื่น คลายร้อน ตามด้วย รสชาติ และความซ่า บางส่วนติดน้ำอัดลม เพราะพรีเซนเตอร์ การโฆษณา โปรโมชั่น ราคา ยี่ห้อ สังกัดบริษัท