สถานการณ์ในประเทศ

พันตำรวจเอกคมศักดิ์ สุมังเกษตร รองผู้บังคับการตำรวจนครบาล 2 เปิดเผยความคืบหน้า คดีการควบคุมตัวนายทาเครุ ฮิราโน อายุ 27 ปี สัญชาติญี่ปุ่น ในข้อหามีอาวุธปืนที่นายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตไว้ในครอบครอง พายุทธภัณฑ์หรือวัตถุอันตรายซึ่งเป็นอันตรายต่อความปลอดภัยของอากาศยานหรือบุคคลไปกับอากาศยาน และนำเข้ายุทธภัณฑ์โดยไม่ได้รับอนุญาตจากปลัดกระทรวงกลาโหม ว่า ในชั้นพนักสอบสวน ผู้ที่เกี่ยวกับผู้ต้องหา ไม่ว่าจะเป็นญาต หรือทางสถานทูต ยังไม่มีการยื่นขอประกันตัว หลังจากที่ถูกจับกุมตัวมา มีแต่เจ้าหน้าที่สถานทูต ส่งล่ามมาร่วมทำการสอบสวนเท่านั้น ซึ่งจากการสอบปากคำ ผู้ต้องหา รับสารภาพว่าของที่พบเป็นของตนเองจริง ซื้อมาจากประเทศเวียดนาม มีเจตนาเพื่อสะสม และนำขึ้นเครื่องมาจากประเทศเวียดนาม เข้าใจว่าไม่มีความผิด เพราะสามารถขึ้นเครื่องจากเวียดนามมาได้ เนื่องจากได้พูดคุยกับเจ้าหน้าที่สนามบินโฮจิมินทร์ จนสามารถนำขึ้นเครื่องได้ จึงน่าเชื่อว่าในประเทศไทยไม่มีความผิดจนเข้าเมืองไทยมา และพักอยู่ที่เมืองไทยระยะเวลาหนึ่ง ก่อนจะเดินทางกลับประเทศญี่ปุ่น จนมีการตรวจพบในขั้นตอนการนำเข้าเครื่องเอกซ์เรย์ กระทั่งถูกจับกุม โดยคิดว่าในเมืองไทยไม่มีความผิด รองผู้บังคับการตำรวจนครบาล 2 กล่าวด้วยว่า แต่และประเทศกฎหมายไม่เหมือนกัน จำเป็น ต้องศึกษา เพราะชิ้นส่วนอาวุธสงครามพวกนี้ ถึงแม้จะเสื่อมสภาพ แต่ถือว่าเป็นชิ้นส่วนของยุทธภัณฑ์ ซึ่งผิดกฎหมายในเมืองไทย ซึ่งวันพรุ่งนี้ ( 11 พ.ค. ) เจ้าหน้าที่ตำรวจ จะควบคุมตัวไปฝากขังที่ศาลอาญารัชดาภิเษก ทั้งนี้ ในชั้นพนักงานสอบสวน ไม่คัดค้านการประกันตัว ส่วนเมื่อนำส่งศาลแล้ว ขึ้นอยู่ดุลยพินิจ ของศาลว่าจะให้การประกันตัวหรือไม่ เป็นดุลยพินิจไม่สามารถก้าวล่วงได้