สถานการณ์ต่างประเทศ

นายกรัฐมนตรีนาจิบ ราซัค ของมาเลเซีย กล่าวระหว่างลงพื้นที่หาเสียงในเมืองปีนัง วานนี้ โดยแสดงความเชื่อมั่นอย่างสูงสุดว่า พรรคแนวร่วมแห่งชาติ (บีเอ็น) พรรครัฐบาลผสม 13 พรรค ที่มีพรรคมลายูสามัคคีแห่งชาติ (อัมโน) ภายใต้การนำของเขาเป็นแกนนำ และผูกขาดอำนาจมาตั้งแต่ได้รับเอกราชจากสหราชอาณาจักร เมื่อปี 2500 จะสามารถคว้าชัยชนะในการเลือกตั้งทั่วไป ซึ่งจะมีขึ้นในวันพุธที่ 9 พ.ค.นี้ได้อย่างไม่ยากเย็น ด้วยคะแนนเสียงสนับสนุนท่วมท้น และสามารถรักษาการครองที่นั่ง 2 ใน 3 ของสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งมีอยู่ 222 ที่นั่ง นายนาจิบ วัย 64 ปี อยู่ในตำแหน่งผู้นำประเทศมาตั้งแต่ปี 2552 กล่าวถึงความมั่นใจของตัวเองว่า เป็นผลจากการหารือกับแกนนำท้องถิ่นของพรรคอันโน และกระแสตอบรับอันยอดเยี่ยมจากประชาชน นับตั้งแต่เริ่มแคมเปญหาเสียงเมื่อ 28 เม.ย. ผู้นำมาเลเซียยังยืนยันว่า การจัดการเลือกตั้งครั้งนี้เป็นไปด้วยความโปร่งใสในทุกขั้นตอน ข้อมูลที่เผยแพร่ออกมาจากฝ่ายตรงข้ามล้วนเป็นข่าวปลอม และวิจารณ์ที่อีกฝ่ายเชิญผู้สังเกตการณ์จากภายนอกมาร่วมติดตามแคมเปญหาเสียงของตัวเอง เป็นเพียงกลยุทธ์การสร้างภาพลักษณ์เพื่อเบี่ยงเบนความสนใจ แต่เขาปฏิเสธตอบคำถามเกี่ยวกับรายงานของกลุ่มเบอร์เซะห์ ที่อ้างการพบความผิดปกติอย่างน้อย 10 ข้อ ในการจัดการเลือกตั้ง อาทิ เขตเลือกตั้งบากัน ดาโต ในรัฐเปรัก ของรองนายกรัฐมนตรี อาหมัด ซาฮิด ฮามิดี มีชื่อผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งในทะเบียนบ้านเดียวกันมากถึง 300 คน คำพูดของนายนาจิบ มีขึ้น ในเวลาเดียวกับที่ ดร.มหาเธร์ โมฮัมหมัด อดีตนายกรัฐมนตรี วัย 92 ปี และหัวหน้าพรรคเบอร์ซาตู แกนนำแนวร่วมฝ่ายค้าน กล่าวระหว่างลงพื้นที่หาเสียงในเมืองปุตราจายา ท้าให้รัฐบาลของนายนาจิบ ดำเนินคดีเขาตามกฎหมายต่อต้านข่าวปลอม จากการที่เขากล่าวเมื่อไม่กี่วันมานี้ ว่ามีความพยายามก่อวินาศกรรมเครื่องบินที่เขาใช้โดยสารไปหาเสียงที่เกาะลังกาวี