สถานการณ์ต่างประเทศ

สำนักข่าวซินหัวของรัฐบาลจีน รายงานการหารือระหว่างคณะเจ้าหน้าที่ระดับสูงของสหรัฐ กับจีน เพื่อคลี่คลายกรณีพิพาททางการค้าในหลายประเด็น ที่เรือนรับรองเตียวหยูไถ่ ระหว่างวันพฤหัสบดี ถึงวันศุกร์ที่ผ่านมา ว่า ซึ่งบรรยากาศของการพบหารือเป็นไปอย่าง สร้างสรรค์ แต่ทั้งสองฝ่าย ยังมีแนวคิดแตกต่างกันในหลายเรื่อง และจำเป็นต้องหารือกัน อย่างต่อเนื่องในอนาคต อย่างไรก็ตาม สื่อสหรัฐและจีนหลายแห่งรายงานโดยอ้างแหล่งข่าว ว่าคณะผู้แทน ของรัฐบาลสหรัฐ 7 คน ที่รวมถึงนายสตีฟ มนูชิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง นายวิลเบอร์ รอสส์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ และนายโรเบิร์ต ไลธิเซอร์ ผู้แทน เจรจาการค้า ต้องการลดการขาดดุลการค้ากับจีนให้ได้ 200,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 6.3 ล้านล้านบาท ภายในปี 2563 เพิ่มขึ้น 2 เท่าจากที่เคยเรียกร้องก่อนหน้านี้ ด้วยการตั้งเงื่อนไขที่รวมถึงการให้รัฐบาลจีน ลดกำแพงภาษีและยกเลิกมาตรการ อุดหนุนราคา รวมถึงการทุ่มตลาดอย่างไม่เป็นธรรมต่อสินค้าหลายรายการ โดยเฉพาะ สินค้าเกษตรและสินค้าด้านเทคโนโลยี ด้านรัฐบาลจีน มอบหมายให้นายหลิว เฮ่อ รองนายกรัฐมนตรีและที่ปรึกษาด้านนโยบาย เศรษฐกิจของประธานาธิบดีสี จิ้นผิง เป็นหัวหน้าคณะผู้แทนเจรจากับสหรัฐในครั้งนี้ ปฏิเสธข้อเรียกร้องเบื้องต้นทั้งหมด โดยแสดงความไม่พอใจต่อการที่มาตรการเรียกเก็บ ภาษีมูลค่าเพิ่มของรัฐบาลสหรัฐ เจตนาเล่นงานสินค้าในโครงการ "เมด อิน ไชน่า 2025" ที่นายหลิวยืนยันว่า เป็นโครงการซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อยกระดับศักยภาพของผู้ประกอบการ ในด้านที่เกี่ยวข้องเท่านั้น และเรียกร้องให้สหรัฐยกเลิกมาตรการกีดกันสินค้าของบริษัท หัวเว่ย และซีทีอี หลังกระทรวงกลาโหมสหรัฐ ประกาศแบนสินค้าของบริษัททั้งสองแห่ง ด้วยเหตุผลด้านความมั่นคง