สถานการณ์ต่างประเทศ

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ตลาดหุ้นนิวยอร์ก ปิดที่ 23,930.15 จุด เพิ่มขึ้น 5.17 จุด หรือ +0.02% ส่วนดัชนี S&P 500 ปิดที่ 2,629.73 จุด ลดลง 5.94 จุด หรือ -0.23% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,088.15 จุด ลดลง 12.75 จุด หรือ -0.18% ตลาดหุ้นนิวยอร์กเมื่อคืน เป็นไปอย่างผันผวน ท่ามกลางความวิตกกังวลเกี่ยวกับผลการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีน โดยนายสตีเวน มนูชิน รัฐมนตรีคลังสหรัฐ , นายวิลเบอร์ รอสส์ รัฐมนตรีพาณิชย์สหรัฐ และนายโรเบิร์ต ไลท์ไฮเซอร์ ผู้แทนการค้าสหรัฐ ได้เข้าร่วมประชุมเป็นเวลา 2 วัน กับเจ้าหน้าที่ระดับสูงของจีน นำโดย นายหลิว เหอ รองนายกรัฐมนตรีจีน ที่กรุงปักกิ่ง ซึ่งเริ่มขึ้นเมื่อวานและจะเสร็จสิ้นในวันนี้ คาดว่าการเจรจาจะครอบคลุมประเด็นกว้างๆเกี่ยวกับความไม่พอใจที่สหรัฐมีต่อการดำเนินนโยบายการค้าของจีน ตั้งแต่ข้อกล่าวหาเกี่ยวกับการถ่ายโอนเทคโนโลยี จนถึงการที่รัฐบาลจีนอุดหนุนเพื่อการพัฒนาเทคโนโลยี ความวิตกกังวลข้อพิพาทด้านการค้าระหว่างสหรัฐ-จีน สกัดปัจจัยบวกจากข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง ได้แก่ ตัวเลขขาดดุลการค้าของสหรัฐที่ปรับตัวลดลง 15.2% ในเดือนมี.ค. สู่ระดับ 4.9 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือน ก.ย.ปีที่แล้ว แรงหนุนจากยอดส่งออกที่เพิ่มขึ้น 2% สู่ 2.085 แสนล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ขณะที่การนำเข้าลดลง 1.8% สู่ 2.575 แสนล้านดอลลาร์ อย่างไรก็ตาม หุ้นเทสลา มอเตอร์ ผู้ผลิตรถยนต์ใช้พลังงานไฟฟ้า ร่วงลง 5.6% แม้บริษัทเปิดเผยยอดขายรายไตรมาสสูงกว่าคาดก็ตาม ขณะที่หุ้นคาร์ดินาล เฮลธ์ ดิ่งลง 21% หลังจากบริษัทเปิดเผยผลประกอบการที่ต่ำกว่าคาดในไตรมาส 3 ของปีงบการเงินของบริษัท พร้อมกับปรับลดคาดการณ์ผลประกอบการตลอดปีงบการเงิน 2561 นักลงทุนยังจับตาตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือน เม.ย.ซึ่งจะเปิดเผยในวันนี้ นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ตัวเลขจะพุ่งขึ้น 192,000 ตำแหน่ง ในเดือน เม.ย.