สถานการณ์ต่างประเทศ

องค์กรสังเกตการณ์ด้านสิทธิมนุษยชนซีเรีย (เอสโอเอชอาร์) รายงาน เกิดเหตุปะทะระหว่างกองทัพซีเรีย กับกองกำลังประชาธิปไตยซีเรีย (เอสดีเอฟ) ซึ่งสหรัฐให้ความสนับสนุน ในเขตจังหวัดเดอีร์ เอสซอร์ ที่อยู่ทางตะวันออกของซีเรีย เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 15 คน โดยเป็นทหารซีเรียและนักรบฝ่ายสนับสนุนรัฐบาล 9 คน และสมาชิกเอสดีเอฟ 6 คน ก่อนที่กองกำลังฝ่ายรัฐบาล เข้ายึดหมู่บ้าน 4 แห่งริมฝั่งตะวันออกของแม่น้ำยูเฟรติส แต่ภายในเวลาไม่นานเอสดีเอฟยึดกลับคืนมาได้ 3 แห่ง ซึ่งถือเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่บ่อยนักที่เกิดการสู้รบขึ้น ปัจจุบันกองทัพซีเรียยึดครองพื้นที่ฝั่งตะวันตกของแม่น้ำยูเฟรติส รวมถึงเมืองเอกของจังหวัดเดอีร์ เอสซอร์ ซึ่งใช้ชื่อเดียวกัน และเป็นแหล่งพลังงานที่สำคัญของซีเรีย ขณะที่ฝั่งตะวันตกของแม่น้ำยูเฟรติสเป็นเขตอิทธิพลของเอสดีเอฟและกองกำลังป้องกันตนเองชาวเคิร์ด (วายพีจี) เอสโอเอชอาร์วิเคราะห์เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า น่าจะเป็นความพยายามครั้งใหม่ของฝ่ายรัฐบาล ในการขับไล่กองกำลังฝ่ายต่อต้านออกไปจากอีกฝั่งหนึ่งของแม่น้ำ และต้องจับตาสถานการณ์ที่จะเกิดขึ้นตามมาอย่างใกล้ชิด เนื่องจากย้อนกลับไปเมื่อเดือนก.พ. ปีนี้ กองทัพซีเรียเคยพยายามโจมตีฐานที่มั่นของเอสดีเอฟมาแล้ว และกองทัพสหรัฐพร้อมพันธมิตรตอบโต้ด้วยการส่งเครื่องบินรบเข้าไปโจมตีทางอากาศถล่มฐานที่มั่นของกองกำลังฝ่ายรัฐบาล มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 100 คน