สถานการณ์ในประเทศ

พ.ต.อ.วรายุทธ สุขวัฒน์ รองผู้บังคับการกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริต และประพฤติมิชอบ หรือ รอง ผบก.ปปป. นำสำนวนคดีการทุจริตเงินทอนวัดล็อตที่ 3 ยื่นเพิ่มเติมต่อสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. หลังจากยื่นรอบแรกไปแล้ว เมื่อวันที่ 11 เม.ย. โดยรอบนี้ประกอบไปด้วย สำนวนจำนวน 8 แฟ้ม รวมกว่า 4,000 แผ่น พ.ต.อ.วรายุทธ กล่าวว่า วันนี้ นำสำนวนคดีเพิ่มเติมอีก 7 สำนวน เป็นสำนวนจาก ทุกภูมิภาค ทั้งภาคเหนือ กลาง อีสาน ใต้ โดยพบว่าเป็นผู้กระทำผิดชุดเดียวกันกับ สำนวนล็อตแรก และล็อตที่ 2 และมีเพิ่มทั้งฆราวาสและพระผู้ใหญ่ โดยในล็อตนี้ มีพระสงฆ์เกี่ยวข้องทั้งที่ยื่นก่อนหน้านี้ และที่ยื่นเพิ่มเติมวันนี้ รวม 7 รูป โดยเป็นการ ทุจริตในงบประมาณทั้ง 3 ส่วน คือ งบปริยัติธรรม งบการศึกษา และงบบูรณปฏิสังขรณ์ ส่วนใหญ่เป็นงบปริยัติธรรมทั้งหมด 165 ล้านบาท ส่วนสำนวนที่ ปปป.ได้มาครั้งนี้ เป็นทั้งพยานบุคคลและพยานหลักฐานผสมกัน ซึ่งพยานหลักฐานของพระทั้ง 7 รูปนั้น ชัดเจน พฤติกรรมไม่ต่างจากล็อต 1 และ 2 เมื่อถามว่าพระผู้ใหญ่บางรูปบอกตำรวจไม่เคยไปสอบปากคำ หรือขอข้อมูลจากทางวัด แต่กลับมากล่าวหา พ.ต.อ.วรายุทธ กล่าวว่า ไม่ขอชี้แจงอะไร เพราะรายละเอียดอยู่ใน สำนวนแล้ว ยืนยันว่ากระทำการโดยบริสุทธิ์และพยานหลักฐานที่มีเพียงพอ ส่วนใหญ่ เป็นเจ้าหน้าที่ที่ทุจริต ในบางส่วนจะมีฆราวาส และมีพระสงฆ์สนับสนุน แต่ต้นเรื่อง ที่แท้จริงไม่ใช่พระสงฆ์ แต่เป็นเจ้าหน้าที่ และในล็อตใหม่นี้มีเจ้าหน้าที่ของสำนักงาน พระพุทธศาสนาแห่งชาติ หรือ พศ. ร่วมด้วย สำหรับความเสียหายในล็อต 3 รวม 10 วัด มูลค่า 140 ล้านบาท ซึ่งการตรวจสอบของ ปปป.ทำเป็นห้วง ห้วงละ 3 เดือน ตรวจสอบ 30 วัด เบื้องต้นพบความผิดปกติ 10 วัด