สถานการณ์ต่างประเทศ

กรณีเหตุการณ์ลอบสังหารนายฟาดี เอ็ม. อาร์. อัล-บัตช์ ชาวปาเลสไตน์ วัย 35 ปี ขณะเดินอยู่บนถนนสายหนึ่งเพื่อไปยังมัสยิด ในเขตชานกรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศ มาเลเซีย เมื่อเช้าตรู่ของวันเสาร์ที่ผ่านมา ครอบครัวและญาติของผู้เสียชีวิตซึ่งอาศัยอยู่ในฉนวนกาซา เชื่อมั่นว่า มอสสาด อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะอิสราเอล เกรงกลัวชาวปาเลสไตน์ที่ฉลาดเฉลียว ขณะที่ กลุ่มฮามาส ออกแถลงการณ์ประณามรัฐบาลอิสราเอล และยืนยันว่าจะต้องตอบโต้ อย่างสาสม พร้อมทั้งยกย่องนายบัตช์ว่า เป็นสมาชิกผู้มีความซื่อสัตย์ในระดับสูง ด้านนายเอวิกดอร์ ลีเบอร์แมน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมอิสราเอล กล่าวว่า เป็นธรรมเนียมปฏิบัติ ของกลุ่มก่อการร้ายอย่างกลุ่มฮามาส ที่จะกล่าวโทษว่ารัฐบาลอิสราเอล และมอสสาด ว่าอยู่เบื้องหลัง ยืนยันว่านายบัตช์ ไม่ใช่นักบุญ และไม่ใช่บุคคลที่พยายามช่วยเหลือเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนในฉนวนกาซาอย่างแท้จริง แต่เป็นนักพัฒนาจรวด นายอาหมัด ซาฮิด ฮามิดี รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยมาเลเซีย กล่าวว่า นายบัตช์ อาศัยอยู่ในประเทศมาเลเซีย มานานประมาณ 10 ปีแล้ว ประกอบอาชีพ วิศวกรไฟฟ้า และมีความเชี่ยวชาญเรื่องจรวด ซึ่งเป็นอาวุธหลักที่กลุ่มฮามาสใช้ต่อสู้กับอิสราเอล ( ภาพ NEW STRAITIMES )