สถานการณ์ในประเทศ

พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. เข้าใจถึง ความห่วงใยของนักธุรกิจ และประชาชนเกี่ยวกับการผูกขาดทางการค้า หลังจากที่กลุ่มบริษัท อาลีบาบา ลงนามความร่วมมือกับรัฐบาลไทยในโครงการสมาร์ท ดิจิตอล ฮับ พื้นที่ระเบียง เศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก หรือ อีอีซี แต่อยากให้เปิดใจกว้างมองอย่างรอบด้าน โดยเฉพาะ อย่างยิ่งสิ่งดีๆที่ประเทศไทยจะได้รับ โดยยืนยันว่ารัฐบาลยึดหลักผลประโยชน์ร่วมกัน และ คำนึงถึงประเทศเป็นสำคัญ ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี กำชับให้ฝ่ายเศรษฐกิจพิจารณาเรื่องสิทธิประโยชน์ของนักลงทุนต่างชาติ อย่างเหมาะสม โดยต้องไม่ให้กระทบต่อนักลงทุนไทย ควบคุมดูแลสินค้านำเข้าเพื่อปกป้อง ผู้ประกอบการธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม หรือ เอสเอ็มอี ในประเทศ ขณะเดียวกัน รัฐบาลให้โอกาสนักลงทุนรายอื่นเข้ามาแข่งขัน เพื่อสร้างความสมดุลในระบบ เศรษฐกิจด้วย อีกทั้งย้ำว่า อาลีบาบาประกาศชัดเจน ว่าต้องการสร้างความสามารถให้ธุรกิจ และคนรุ่นใหม่ของประเทศที่ไปลงทุนนั้นประสบความสำเร็จ โดยไม่ต้องการทำสงคราม ทางการค้า เพราะเขาเชื่อมั่นในการแข่งขันเสรี โดยขณะนี้มีสินค้าของไทยหลายรายการ ที่ชาวจีนชื่นชอบมาก เช่น ข้าวหอมมะลิ ทุเรียน และผลไม้ต่างๆ เมื่อเข้าสู่ระบบการขาย ทางอิเล็กทรอนิกส์หรือ อี-คอมเมิร์ซ ก็ได้รับความนิยมจากผู้บริโภคจนขายหมดอย่างรวดเร็ว พล.ท.สรรเสริญ กล่าวอีกว่า ที่ผ่านมา ไทยไม่มีการลงทุนขนาดใหญ่ใดๆ นับตั้งแต่การ ก่อสร้างสนามบินสุวรรณภูมิ ดังนั้น โครงการอีอีซี จึงเป็นจุดขายของไทยในการดึงดูด การลงทุนใหม่ๆ เพื่อยกระดับเศรษฐกิจของประเทศให้ก้าวอีกขั้น เช่นเดียวกับหลายประเทศ ที่ประสบความสำเร็จจากการจัดตั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษมาแล้วอย่างเช่นจีน ส่วนประเทศ เพื่อนบ้านในอาเซียน ทั้งเมียนมา กัมพูชา ลาว เวียดนาม มาเลเซีย ล้วนมีเขตเศรษฐกิจ พิเศษเช่นกัน