สถานการณ์ต่างประเทศ

สมเด็จพระราชาธิบดีอึมสวาตีที่ 3 ทรงมีพระบรมราชโองการเมื่อวันพฤหัสบดี ซึ่งเป็นวันคล้ายวันพระราชสมภพของพระองค์ ที่ทรงเจริญพระชนมพรรษาครบ 50 พรรษา ให้เปลี่ยนชื่อประเทศจาก "สวาซิแลนด์" เป็น "อีสวาตินี" (eSwatini ) ซึ่งเป็นภาษาสวาตีหมายถึง "ดินแดนของชาวสวาซี" หรือ "สถานที่สำหรับชาวสวาซี" สมเด็จพระราชาธิบดีอึมสวาตีที่ 3 ทรงเรียกขานสวาซิแลนด์ว่า "ราชอาณาจักรอีสวาตินี" มาแล้วหลายครั้ง ช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมา รวมถึงการพระราชทานกระแสพระราชดำรัสต่อที่ประชุมสมัชชาใหญ่สหประชาชาติ (ยูเอ็นจีเอ) ที่นครนิวยอร์ก ของสหรัฐ เมื่อปีที่แล้ว และการประชุมใหญ่สหภาพแอฟริกา (เอยู) โดยพระองค์ทรงให้เหตุผลของพระราชประสงค์ในการเปลี่ยนชื่อประเทศเป็น "ราชอาณาจักรอีสวาตินี" ว่า เป็นการแสดง "ความเป็นอัตลักษณ์" ของประเทศ ก่อนตกอยู่ภายใต้การยึดครองของสหราชอาณาจักร ระหว่างปี 2449-2511 และเพื่อไม่ให้เกิดความสับสนระหว่าง "สวาซิแลนด์" กับ "สวิตเซอร์แลนด์" ขณะที่พรรคการเมืองฝ่ายค้านในสวาซิแลนด์ พากันวิพากย์วิจารณ์การเปลี่ยนชื่อประเทศว่า ไม่จำเป็น และเรียกร้องให้สมเด็จพระราชาธิบดีอึมสวาตีที่ 3 ทรงให้ความสำคัญกับการพัฒนาเศรษฐกิจและคุณภาพชีวิตของประชาชนมากกว่านี้ จากการเป็นประเทศที่มีสัดส่วนผู้ติดเชื้อไวรัสเอชไอวีมากที่สุดในโลก “สวาซิแลนด์” เป็นประเทศเดียวในทวีปแอฟริกา ที่ยังอยู่ภายใต้การปกครองระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ สมเด็จพระราชาธิบดีอึมสวาตีที่ 3 เสด็จขึ้นครองราชย์เมื่อปี พ.ศ.2529 ขณะทรงมีพระชนมพรรษาเพียง 18 พรรษา และถูกนานาประเทศรุมวิจารณ์อย่างหนักจนถึงปัจจุบัน เกี่ยวกับการกดขี่ด้านสิทธิพลเมือง