สถานการณ์ต่างประเทศ

ผู้โดยสารที่ประสบเหตุระทึกขวัญ บนเที่ยวบินเซาต์เวสต์แอร์ไลนส์ เครื่องยนต์ด้านซ้ายระเบิด กลางอากาศ ทำให้เศษโลหะทะลุหน้าต่างแตก มีผู้เสียชีวิต 1 คน เป็นผู้โดยสารหญิงที่นั่งอยู่ใกล้จุดเกิดเหตุ ที่เกือบถูกแรงดันอากาศดูดออกไปนอกเครื่อง พากันกล่าวยกย่องกัปตันหญิง แทมมี โจ ชูลทส์ ที่ครองสติได้อย่างมั่นคง นำเครื่องบินลงแตะพื้นโดยสวัสดิภาพ และหลังจาก นำเครื่องบินลงจอดโดยสวัสดิภาพแล้ว ยังเดินตามช่องทางเดินและพูดคุยกับผู้โดยสาร เพื่อ ให้แน่ใจว่าทุกคนปลอดภัย และกล่าวขอบคุณทุกคน ที่แสดงความกล้าหาญขณะตกอยู่ใน สถานการณ์ระทึกขวัญ สายการบินปฏิเสธให้ชื่อลูกเรือของเที่ยวบิน 1380 และกัปตันชูลทส์ ไม่ได้แสดงความเห็นใด ๆ แต่ชื่อของเธอมาจากการบอกเล่าของผู้โดยสาร รอเบิร์ต ซัมวอลท์ ประธานสำนักงานคณะกรรมการความปลอดภัยการบิน กล่าวว่า ลูกเรือ ปฏิบัติหน้าที่อย่างมืออาชีพตามที่เคยผ่านการฝึกมา รวมถึงการฝึกในการจำลองสถานการณ์ ลดเพดานบินฉุกเฉิน และสูญเสียเครื่องยนต์ สื่อหลายสำนัก เผยปูมหลังของนักบินหญิงผู้นี้ว่า ชูลทส์ อายุ 56 ปี เคยเป็นหนึ่งในนักบินหญิง รุ่นแรกของเครื่องบินรบกองทัพเรือมาก่อน คุ้นชินกับการนำเครื่องบินรบเอฟ-18 ที่บินด้วยความเร็ว 150 ไมล์ต่อชั่วโมง ลงจอดบนเรือบรรทุกเครื่องบิน และใช้ประสบการณ์และทักษะที่มี นำพาเครื่องบินโดยสารแบบโบอิ้ง 737-700 ที่เครื่องยนต์หนึ่งเครื่องระเบิดแตก ที่ความสูง 3 หมื่นฟุต ลดระดับลงอย่างรวดเร็วสู่การลงจอดฉุกเฉินที่สนามบินฟิลาเดลเฟีย รัฐเพนซิลวาเนีย เวบไซต์ F-16.net อ้างคำพูดของ ชูลทส์ ว่า ฝันและมุ่งมั่นที่จะเป็นนักบินตั้งแต่เด็ก แต่ตอน มัธยมปลาย ได้รับแจ้งว่า ในวงการการบินไม่ยอมรับผู้หญิง แต่เธอไม่ล้มเลิกความตั้งใจ หลังจากเรียนแพทย์ในแคนซัส จึงสมัครเข้ากองทัพอากาศ แต่กองทัพอากาศไม่อนุมัติให้เธอ ทดสอบเป็นนักบิน แต่ความฝันก็เป็นจริงในที่สด เมื่อกองทัพเรืออนุญาต ชูลทส์ กลายเป็น หนึ่งในนักบินหญิงรุ่นแรกของเครื่องบินเอฟ-18 ฮอร์เน็ต ต่อมาเป็นครูฝึก ก่อนลาออกจาก กองทัพเรือในปี 2536 มาเป็นนักบินสายการบินเซาต์เวสต์ แอร์ไลนส์