สถานการณ์ต่างประเทศ

ประธานาธิบดีเอมมานูเอล มาครง วัย 40 ปีของฝรั่งเศส ให้สัมภาษณ์สด สถานีโทรทัศน์บีเอฟเอ็ม ออกอากาศเมื่อวันอาทิตย์ว่า สหรัฐ สหราชอาณาจักร และฝรั่งเศส มีความชอบธรรมอย่างสูงสุดตามกฎหมายระหว่างประเทศ ในการปฏิบัติการโจมตีทางอากาศต่อเป้าหมายในซีเรีย เมื่อวันเสาร์ เพื่อบังคับให้รัฐบาลซีเรียปฏิบัติตามกฎหมายด้านมนุษยธรรมระดับสากล และว่า ปฏิบัติการดังกล่าวเป็นเพียงการตอบโต้ ไม่ใช่การทำสงคราม ประธานาธิบดีมาครง ยังกล่าวถึงท่าทีของ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ที่กล่าวเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ส่งสัญญาณการเตรียมถอนทหารอเมริกันออกจากซีเรียว่า ฝรั่งเศสพยายามโน้มน้าวให้รัฐบาลสหรัฐ คงกำลังเจ้าหน้าที่และสรรพาวุธไว้ต่อไปในระยะยาว แต่ฝรั่งเศสยังคงแสวงหาโอกาสความร่วมมือกับรัสเซียและตุรกี ตลอดจนกลุ่มประเทศตะวันตกอีกหลายแห่ง ในการสร้างโอกาสใหม่ตามกระบวนการทางการทูต เพื่อคลี่คลายความขัดแย้งในซีเรีย พร้อมเสนอตัวทำหน้าที่เป็นผู้ไกล่เกลี่ยข้อพิพาทระหว่างสหรัฐกับรัสเซีย จากข้อครหา รัสเซียแทรกแซงการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ เมื่อปี 2559 ต่อมา ทำเนียบขาวของสหรัฐ ออกแถลงการณ์ว่า พันธกิจของสหรัฐในซีเรียยังเหมือนเดิม คือ การที่ทหารอเมริกันทั้งหมดจะเดินทางกลับบ้านให้เร็วที่สุด ตามความต้องการของผู้นำสหรัฐ และมุ่งมั่นให้ภารกิจกวาดล้างกลุ่มติดอาวุธชาวมุสลิม หรือ ไอเอส ในซีเรีย สำเร็จลุล่วง และหวังเป็นอย่างยิ่งว่า พันธมิตรของสหรัฐในตะวันออกกลาง จะร่วมกันแสดงความรับผิดชอบมากขึ้น ทั้งด้านการทหารและการเงิน เพื่อเสถียรภาพในภูมิภาคนี้