สถานการณ์ในประเทศ

นายสุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการ คณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจ ประกันภัย หรือ คปภ.กล่าวถึงอุบัติเหตุรถโดยสารปรับอากาศ 2 ชั้น บรรทุกแรงงานเมียนมา จาก อ.แม่สอด จ.ตาก ไป จ.ฉะเชิงเทรา เสียหลักพลิกคว่ำลงข้างทางบริเวณดอยรวก บนทางหลวงแผ่นดิน หมายเลข 12 แม่สอด-ตาก เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ 6 ราย บาดเจ็บกว่า 30 ราย เมื่อวันที่ 9 เม.ย.ที่ผ่านมา ว่า จากการติดตามและประสานงานอย่าง ใกล้ชิดของ คปภ.ส่วนกลาง และ คปภ.จังหวัดตาก พบว่ารถคันเกิดเหตุ ทำประกันภัยรถ ภาคบังคับ ไว้กับบริษัท เคเอสเค ประกันภัย (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) โดยในส่วนของ ผู้โดยสาร กรณีบาดเจ็บจะได้รับค่ารักษาพยาบาลตามที่จ่ายจริงแต่ไม่เกิน 80,000 บาทต่อคน และกรณีเสียชีวิต/ทุพพลภาพถาวร จะได้รับค่าสินไหมทดแทน 300,000 บาทต่อคน และ กรณีสูญเสียอวัยวะ 200,000-300,000 บาท กรณีเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลในฐานะ คนไข้ใน จะได้รับค่าชดเชยวันละ 200 บาท ไม่เกิน 20 วัน นอกจากนี้ รถโดยสารคันเกิดเหตุ ยังทำประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจ ประเภท 1 ไว้กับ บริษัท สินมั่นคงประกันภัย จำกัด (มหาชน) ให้ความคุ้มครองความรับผิดความเสียหายต่อชีวิต ร่างกาย หรืออนามัย ของบุคคลภายนอก 300,000 บาทต่อคน และ 10,000,000 บาท/ครั้ง คุ้มครองความเสียหายต่อทรัพย์สินไม่เกิน 600,000 บาท/ครั้ง และมีความคุ้มครองจากการ ประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล (PA) โดยให้ความคุ้มครองต่อกรณีเสียชีวิต สูญเสียอวัยวะ และทุพพลภาพถาวร ของผู้ขับขี่ 100,000 บาท และผู้โดยสาร 44 คน ๆ ละ 100,000 บาท ต่อคน และค่ารักษาพยาบาลอีก 50,000 บาทต่อคน ซึ่งขณะนี้กระบวนการจ่ายค่าสินไหมทดแทนกับผู้ประสบอุบัติเหตุที่เป็นแรงงานจากประเทศเมียนมานั้น อยู่ระหว่างการประสานงานกับสถานทูตเมียนมาประจำประเทศไทย