สถานการณ์ต่างประเทศ

สำนักงานคณะผู้แทนการค้าของสหรัฐ ออกแถลงการณ์ว่า รายชื่อสินค้าของจีน 1,300 รายการ ที่ต้องเผชิญกำแพงภาษี 25% คิดเป็นมูลค่ารวม 50,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 1.5 ล้านล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นสินค้าเกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมและเทคโนโลยี ครอบคลุมตั้งแต่ส่วนประกอบของยานพาหนะ ส่วนประกอบของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ที่รวมถึงเซมิคอนดักเตอร์ หรือสารกึ่งตัวนำ และผลิตภัณฑ์ด้านเวชภัณฑ์ มาตรการดังกล่าว เป็นไปตามคำสั่งฝ่ายบริหารของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เมื่อเดือนที่แล้ว ซึ่งต้องการตอบโต้นโยบายการค้าอันก้าวร้าว ของรัฐบาลจีน ที่ลอกเลียนสิทธิบัตรและจารกรรมข้อมูลด้านทรัพย์สินทางปัญญาของสหรัฐ จะยังไม่มีผลบังคับใช้ทันที เนื่องจากยังต้องมีการเปิดทำประชาพิจารณ์ และ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องหารือกันอีกหลายรอบ คาดว่าจะใช้เวลาอีก 2 เดือน ขณะที่สถานเอกอัครราชทูตจีน ประจำกรุงวอชิงตัน ระบุว่า รัฐบาลจีน จะร้องเรียนเรื่องนี้ ต่อองค์การการค้าโลก หรือ ดับเบิลยูทีโอ ด้านกระทรวงพาณิชย์ของจีน ยืนยันว่า จะตอบโต้อย่างเท่าเทียม เนื่องจากค่อนข้างชัดเจนว่า สหรัฐต้องการเล่นงานผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการสนับสนุนจากโครงการ “เมด อิน ไชน่า 2025” ของรัฐบาลจีน การประกาศตั้งกำแพงภาษีสินค้าจีน เกิดขึ้นเพียงไม่กี่วัน หลังกระทรวงพาณิชย์จีน เปิดเผยรายชื่อสินค้าของสหรัฐ 128 รายการ ซึ่งต้องเสียภาษีเพิ่มขึ้นระหว่าง 15% ถึง 25% คิดเป็นมูลค่ารวม 3,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 93,600 ล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นสินค้าเกษตรซึ่งรวมถึง ไวน์ ผลไม้สด ผลไม้แห้ง เนื้อหมูแช่แข็ง และถั่วเปลือกแข็ง