สถานการณ์ในประเทศ

นิด้าโพล โดยสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ เปิดเผยผลสำรวจความคิดเห็นประชาชนหัวข้อ "ไทยนิยม ยั่งยืน VS ประชานิยม" ระหว่างวันที่ 28-29 มี.ค.จากประชาชนทั่วประเทศ 1,250 คน พบว่า ประชาชนส่วนใหญ่ ร้อยละ 41.04 ระบุว่า ไม่เคยได้ยิน ไม่รู้จัก เกี่ยวกับโครงการไทยนิยม ยั่งยืน ที่รัฐบาลกำลังดำเนินการอยู่ ขณะที่ร้อยละ 32.24 รู้จัก และร้อยละ 26.72 ระบุว่า เคยได้ยินชื่อโครงการ แต่ไม่รู้ว่าทำเกี่ยวกับอะไร ส่วนความคาดหวังโครงการไทยนิยม พบว่า ร้อยละ 38.08 คาดหวังไทยนิยมยั่งยืน จะแก้ปัญหาและพัฒนาความเป็นอยู่ของประชาชน ทั้งเศรษฐกิจ สังคม และความมั่นคงอย่างยั่งยืน ขณะที่ร้อยละ 54.16 มั่นใจว่า ไทยนิยมยั่งยืน จะสามารถแก้ไขปัญหาความเดือดร้อน ลดความเหลื่อมล้ำ ยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชนให้พ้นจากความยากจน อีกร้อยละ 33.44 ไม่คาดหวังโครงการนี้ และร้อยละ 42.16 มองว่า ไม่สามารถแก้ไขได้ เพราะเป็นการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ แก้ได้เฉพาะคนกลุ่มน้อย เมื่อถามถึงความแตกต่างระหว่าง "โครงการไทยนิยม ยั่งยืน" กับ "นโยบายประชานิยม" ปชช.ส่วนใหญ่ ร้อยละ 48.96 ระบุ ไม่แตกต่าง เพราะเป็นโครงการที่มีลักษณะและวิธีการแก้ไขปัญหาคล้ายคลึงกัน คือ ทำเพื่อช่วยเหลือประชาชน โดยเปลี่ยนจากนโยบายเป็นโครงการเท่านั้น ทั้งยังเป็นการช่วยเหลือประชาชนแบบเฉพาะหน้าทั้ง 2 โครงการ และไม่สามารถช่วยเหลือในระยะยาวได้จริง รองลงมา ร้อยละ 43.44 ระบุว่า แตกต่าง เพราะการบริหารงานและรายละเอียดของโครงการแตกต่างกัน โดยนโยบายประชานิยมเป็นการให้ความหวังกับประชาชน ดูฉาบฉวย และเกิดประโยชน์ส่วนบุคคลเท่านั้น แต่โครงการไทยนิยม ยั่งยืน เปิดโอกาสให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมในการแสดงความคิดเห็น ส่งผลให้ประชาชนสามารถพึ่งพาตนเองได้ สำหรับการลงพื้นที่พบปะประชาชนของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. เป็นการหาเสียงในช่วงโค้งสุดท้ายก่อนมีการเลือกตั้ง ปี 2562 หรือไม่ ปชช.ส่วนใหญ่ถึงร้อยละ 50.48 ระบุ เป็นการหาเสียง แต่ร้อยละ 42.32 ระบุ ไม่เป็นการหาเสียง เพราะเป็นการปฏิบัติหน้าที่ของนายกรัฐมนตรีอยู่แล้ว