สถานการณ์ต่างประเทศ

นายอนาโตลี อันโตนอฟ เอกอัครราชทูตรัสเซียประจำกรุงวอชิงตัน กล่าวเมื่อวานว่า รัฐบาลสหรัฐ ไม่มีความเข้าใจอย่างแท้จริงต่อเรื่องทั้งหมด และเพียงต้องการ"แสดงความแข็งแกร่ง" ซึ่งรัฐบาลรัสเซียจะไม่มีทางเพิกเฉยต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้นกับภารกิจการทูต ในสหรัฐ คำกล่าวของอันโตนอฟมีขึ้น หลังเข้าพบเจ้าหน้าที่ระดับสูงของกระทรวงการต่างประเทศ สหรัฐ ที่กรุงวอชิงตัน เพื่อรับทราบคำสั่งขับเจ้าหน้าที่การทูต 48 คน จากสถานกงสุลใหญ่ ณ เมืองซีแอตเทิล ที่ต้องปิดทำการด้วยภายใน 7 วัน คือ ภายในวันที่ 2 เม.ย. แต่หลังจากนั้นเพียงไม่กี่ชั่วโมง รัฐบาลสหรัฐกลับแจ้งการเนรเทศเจ้าหน้าที่การทูตของรัสเซียเพิ่มอีก 12 คน จากสำนักงานคณะผู้แทนถาวรประจำสหประชาชาติ ในนครนิวยอร์ก ซึ่งนายวาสซิลี เนเบนเซีย เอกอัครราชทูตรัสเซียประจำสหประชาชาติ กล่าวว่า ยิ่งสะท้อน"ความไม่เข้าใจ" ของสหรัฐ และการทำลายความน่าเชื่อถือของรัฐบาลสหรัฐ เนื่องจากเจ้าหน้าที่การทูตประจำสหประชาชาติทุกคนล้วนอยู่ภายใต้อนุสัญญาว่าด้วยเอกสิทธิ์และความคุ้มกันแห่งสหประชาชาติ หรือ อนุสัญญานิวยอร์ก ฉบับปี 2489 เป็นที่น่าสังเกตว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ไม่ทวีตความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้ แต่นางซาราห์ แซนเดอร์ส โฆษกหญิงทำเนียบขาว กล่าวว่า ทรัมป์ต้องการแสดงความ เป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกับอังกฤษ ต่อกรณีของนายเซอร์เก สกรีพัล อดีตเจ้าหน้าที่ข่าวกรอง ทหารของรัสเซีย และน.ส.ยูเลีย สกรีพัล ลูกสาว ได้รับสารพิษร้ายแรงเมื่อวันที่ 4 มี.ค. ที่ผ่านมา และอังกฤษยืนยันว่าเป็นสารพิษจากโครงการ "โนวิช็อก" ที่สหภาพโซเวียต พัฒนาขึ้น ( ภาพจาก Reuters )