สถานการณ์ในประเทศ

นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยว่า นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรค จะนำทีมแกนนำพรรค ไปประชุมพรรคการเมืองเก่า ตามที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เชิญไปพูดคุย ในประเด็น พรรคการเมืองเก่าจะทำอะไรได้บ้าง กรณีเปิดให้ยืนยันสมาชิกพรรคในวันที่ 1 เมษายนนี้ โดยหวังว่าจะเป็นเวทีที่จะได้ข้อสรุปว่าพรรคการเมืองสามารถดำเนินการตามกฎหมายพรรคการเมือง และคำสั่ง คสช.อย่างไร เพราะอาจมีการตีความที่ไม่ตรงกัน นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ ยังเรียกร้องให้สมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ ยืนยันความเป็นสมาชิกพรรคต่อหัวหน้าพรรคการเมือง และชำระค่าบำรุงพรรคการเมืองตามคำสั่ง คสช.ที่ 53/2560 ซึ่งจะเริ่มตั้งแต่วันที่ 1-30 เมษายนนี้ โดยสมาชิกสามารถไปดำเนินการได้ที่ที่ทำการสำนักงานใหญ่ของพรรคหรือสาขาพรรคทั่วประเทศ หรือสำนักงาน ส.ส. โดยจะมีการประกาศผ่านเว็บไซต์ของพรรค โดยสมาชิกพรรคต้องมีหนังสือยืนยันความเป็นสมาชิกพรรคต่อหัวหน้าพรรคว่ามีคุณสมบัติถูกต้อง ไม่มีลักษณะต้องห้าม และนำบัตรประจำตัวประชาชน สำเนาทะเบียนบ้านพร้อมลายเซ็นรับรองมายืนยัน พร้อมกับชำระค่าบำรุงพรรคแบบตลอดชีพ 2,000 บาท ส่วนรายปี ปีละ 100 บาท แต่สิ่งที่ก่อให้เกิดปัญหาคือ กกต.กำหนดให้นำสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนและสำเนาทะเบียนบ้านมายืนยันความเป็นสมาชิกพรรค จึงอยากให้ กกต.ทบทวนเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับประชาชน เพราะสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์จำนวน 2.5 ล้านคน ได้สมัครโดยใช้สำเนาทะเบียนบ้านและบัตรประชาชนอยู่แล้ว การให้เอาเอกสารทั้งสองอย่างมาแสดงอีกจะก่อให้เกิดความซ้ำซ้อน สิ้นเปลืองเอกสารและเป็นภาระกับประชาชน สำหรับการสมัครเป็นสมาชิกใหม่ นายองอาจ ระบุว่า ยังไม่สามารถดำเนินการได้ เนื่องจาก คสช.ยังไม่ปลดล็อกพรรคการเมือง จึงอยากให้ คสช.พิจารณาปลดล็อกพรรคการเมืองเพื่อให้พรรคการเมืองดำเนินกิจกรรมได้ หาก คสช.ยังกังวลเรื่องความมั่นคงก็อาจพิจารณาคลายล็อกให้พรรคการเมืองดำเนินกิจกรรมได้บางอย่าง เช่น การรับสมาชิกใหม่และการให้รับเงินบริจาคได้ รวมทั้งจัดประชุมได้ ซึ่งจะเป็นการเตรียมการเข้าสู่การเลือกตั้ง สร้างความมั่นใจให้ทุกฝ่ายว่าประเทศไทยกำลังเดินหน้าสู่การเลือกตั้ง โดยในขณะนี้มีบุคคลรุ่นใหม่ที่พร้อมจะสมัครเป็นสมาชิกพรรคแต่ยังไม่สามารถดำเนินการได้เพราะยังไม่มีการปลดล็อกพรรคการเมือง