สถานการณ์ในประเทศ

พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยความคืบหน้า การนำรถดับเพลิงของ กทม. 139 คัน ที่จอดไว้บริเวณท่าเรือแหลมฉบัง จังหวัดชลบุรี ของบริษัท นามยงค์ เทอมินัล จำกัด (มหาชน) ออกมาซ่อมแซมและใช้งานว่า เมื่อ 21 มี.ค. ศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศ นัดเจรจาไกล่เกลี่ย เรื่องการชำระค่าการฝากจอดรถดับเพลิง ระหว่าง กทม. นำโดย พล.ต.ท.ชินทัต มีศุข รองผู้ว่า กทม. และตัวแทนบริษัท นามยงค์ฯ แต่ยังไม่ได้ข้อสรุป โดย กทม.ฟ้องศาลขอคุ้มครองชั่วคราว ขอนำรถดับเพลิงทั้งหมดออกมาซ่อมแซม เพื่อใช้บรรเทาสาธารณภัยและดูแลประชาชน ศาลอยู่ระหว่างไต่สวนพิจารณาเรื่องนี้ โดยนัดทั้ง 2 ฝ่ายมาฟังผลการพิจารณาอีกครั้งวันที่ 24 เม.ย.นี้ ผู้ว่า กทม. กล่าวอีกว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่และบุคลากร สปภ. ทำงานเหนื่อยมาก เพราะมีรถดับเพลิงเสีย 400 คัน จากที่มีใช้งานอยู่ทั่วกรุงเทพฯ ราวกว่า 1,000 คัน และยังไม่กล้าจัดซื้อจัดจ้างใหม่ เพราะเกรงว่าจะเป็นมหากาพย์และกลัวโง่ซ้ำซาก เช่นเดียวกับคดีรถดับเพลิงดังกล่าว แต่ได้ประชุมหารือกับเจ้าหน้าที่ สปภ. ต่อเนื่อง และกำชับให้ทุกคนใช้อุปกรณ์ที่มีอยู่ให้เกิดประโยชน์และประสิทธิภาพสูงสุด อย่างไรก็ตาม กทม.จะจัดตั้งสถานีดับเพลิงย่อย 5 สถานี เบื้องต้นรูปแบบเป็นอาคาร 3 ชั้น กำหนดแล้วเสร็จภายในเดือน ก.ย.นี้ เมื่อแล้วเสร็จแต่ละสถานีจะมีรถดับเพลิง ขนาดใหญ่ 1 คัน ขนาดเล็ก 2 คัน และบุคลากร 6 คน ซึ่งจะพิจารณาความเหมาะสมของแต่ละพื้นที่ และจะเกลี่ยอัตรากำลังเจ้าหน้าที่จากสถานีดับเพลิงหลัก มาประจำการตามสถานีดับเพลิงย่อยต่อไป ปัจจุบัน กทม. มีสถานีดับเพลิงหลัก 35 แห่ง และสถานีดับเพลิงย่อย 11 แห่ง