สถานการณ์ต่างประเทศ

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ตลาดหุ้นนิวยอร์ก ปิดที่ 24,682.31 จุด ลดลง 44.96 จุด หรือ -0.18% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,711.93 จุด ลดลง 5.01 จุด หรือ -0.18% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,345.29 จุด ลดลง 19.02 จุด หรือ -0.26% ดัชนีดาวโจนส์ ปิดขยับลงเมื่อคืน หลังจากที่ประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีมติปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น 0.25% สู่ระดับ 1.50-1.75% ตามที่ตลาดคาดการณ์ไว้ เป็นปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกในปีนี้ และเป็นครั้งที่ 6 นับตั้งแต่เฟดเริ่มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือน ธ.ค.2558 พร้อมส่งสัญญาณปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 3 ครั้งในปีนี้ นักวิเคราะห์ระบุว่า หลังจากเฟดมีมติได้ไม่นาน ดาวโจนส์ดีดตัวขึ้นสู่แดนบวก เนื่องจากนักลงทุนขานรับการแสดงความเชื่อมั่นต่อแนวโน้มเศรษฐกิจของคณะกรรมการเฟด แต่การที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐพุ่งขึ้น หลังจากเฟดมีมติ กดดันให้ดัชนีดาวโจนส์ปิดตลาดในแดนลบ ทั้งนี้ หุ้นกลุ่มพลังงานดีดตัวขึ้น หลังจากราคาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์ก พุ่งขึ้นติดต่อกันเป็นวันที่สองเมื่อคืนนี้ ส่วนหุ้นกลุ่มธุรกิจสร้างบ้านปรับตัวขึ้น ขานรับยอดขายบ้านมือสองของสหรัฐที่พุ่งขึ้นเกินคาดในเดือน ก.พ. ขณะที่หุ้นเจเนอรัล มิลส์ ร่วงลง 8.9% หลังจากบริษัทเปิดเผยผลประกอบการรายไตรมาสที่ต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของวอลล์สตรีท หุ้นเซาท์เวสต์ แอร์ไลน์ส ดิ่งลง 4.8% หลังจากบริษัทปรับลดคาดการณ์แนวโน้มรายได้ในไตรมาสแรกปีนี้