สถานการณ์ต่างประเทศ

ผู้นำ 10 ชาติสมาคมประชาชาติเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หรือ อาเซียน และออสเตรเลีย ออกแถลงการณ์ร่วม หลังเสร็จสิ้นการประชุมสุดยอด สมัยพิเศษ 2018 ที่นครซิดนีย์ ของออสเตรเลีย เป็นเวลา 3 วัน โดยสรุปว่า ทั้งสองฝ่ายย้ำเรื่องความสำคัญของการรักษาและส่งเสริมสันติภาพ เสถียรภาพ ความปลอดภัยและเสรีภาพในการเดินเรือและการบินในภูมิภาค พร้อมต้องการให้แนวปฏิบัติในทะเลจีนใต้ที่มีประสิทธิภาพได้ข้อสรุปโดยเร็ว จะยึดมั่นต่อระเบียบตามกติกาและกฎหมายสากลในภูมิภาค รวมถึงทะเลจีนใต้ โดยไม่ได้เอ่ยถึงชื่อจีน ทั้งสองฝ่ายยังจะเสริมสร้างความร่วมมือด้านกลาโหม ทั้งในเชิงลึกและเชิงกว้าง ด้วยความกังวลอย่างยิ่งต่อสถานการณ์บนคาบสมุทรเกาหลี ที่ทวีความตึงเครียด พร้อมเรียกร้องให้เกาหลีเหนือ ปฏิบัติตามมติคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติทั้งหมด โดยทันทีและเต็มที่ แถลงการณ์ร่วมอาเซียน-ออสเตรเลีย ย้ำเรื่องการปกป้องสิทธิมนุษยชน แต่ไม่ได้ประณามเมียนมา เรื่องการปฏิบัติต่อชาวโรฮิงญา โดยนายกรัฐมนตรีมัลคอล์ม เทิร์นบูล ของออสเตรเลีย กล่าวระหว่างแถลงข่าวปิดการประชุมว่า ที่ประชุมได้หารือเรื่องสถานการณ์ในรัฐยะไข่ตลอดทั้งวันนี้ ซึ่งนางออง ซาน ซู จี ที่ปรึกษาแห่งรัฐเมียนมา ได้แก้ปัญหานี้อย่างครอบคลุม แต่เรื่องนี้เป็นปัญหาซับซ้อน ทุกคนล้วนต้องการหาทางยุติสิ่งที่เกิดขึ้นจากความขัดแย้ง ด้านนายกรัฐมนตรีลี เซียน ลุง ของสิงคโปร์ ในฐานะประธานอาเซียน ระบุว่า อาเซียนทุกประเทศกังวลเรื่องนี้ แต่ไม่สามารถเข้าไปแทรกแซงเพื่อบังคับให้ได้ผลที่ต้องการ ส่วนนายกรัฐมนตรีนาจิบ ราซัก ของมาเลเซีย เตือนว่า ชาวโรฮิงญาไร้ถิ่นที่อยู่จะกลายเป็นภัยความมั่นคงรูปแบบใหม่ เพราะคนสิ้นหวังเหล่านี้เสี่ยงตกเป็นเหยื่อถูกล้างสมอง