สถานการณ์ต่างประเทศ

นายกรัฐมนตรี อังเกลา แมร์เคิล ของเยอรมนี เริ่มบริหารประเทศเป็นสมัยที่ 4 ในวันนี้ ยุติภาวะทางตันทางการเมืองที่ดำเนินมาเกือบ 6 เดือน ตั้งแต่เสร็จสิ้นการเลือกตั้ง เมื่อเดือนกันยายนปีที่แล้ว พรรคซีดียู-ซีเอสยู สายอนุรักษ์นิยมของนางแมร์เคิล ตกลงตั้งรัฐบาลผสมร่วมกับ พรรคเอสพีดี สายกลางซ้ายอีกครั้ง โดยกำหนดนโยบายหลักร่วมกันสำหรับบริหาร ประเทศตลอด 4 ปีข้างหน้า เรื่องสำคัญที่สุด คือ การปฏิรูปสหภาพยุโรป หรือ อียู ที่กำลังเผชิญกระแสชาตินิยม ปัญหาความมั่นคง และพันธมิตรคาดเดาไม่ได้อย่างประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ นายโอลาฟ ชอยซ์ รักษาการผู้นำพรรคเอสพีดี กล่าวในพิธีลงนามข้อตกลงตั้งรัฐบาลผสม ว่า โลกมีความซับซ้อนมากยิ่งขึ้น ดังนั้น อียูจะต้องรวมตัวกันให้แน่นหนามากยิ่งขึ้น รัฐบาลผสมเยอรมนีรับปากจะร่วมกับประธานาธิบดี เอ็มมานูเอล มาครง ของฝรั่งเศส ปฏิรูปยูโรโซนให้แข็งแกร่ง เพื่อให้สามารถต้านทานวิกฤติโลกได้ดีขึ้น จะเพิ่มเงินสมทบ อียูในการดำเนินนโยบายต่างประเทศและกลาโหม ทันทีที่อังกฤษออกจากอียู จะสนับสนุน การตั้งกองทุนการเงิน ยุโรปเพื่อช่วยเหลือประเทศสมาชิกที่เกิดวิกฤต ส่วนเรื่องคนเข้าเมือง รัฐบาลผสมจะจำกัดการรับไว้ที่ปีละ 200,000 คน หลังจาก นโยบายเปิดประเทศรับคลื่นผู้อพยพในปี 2558 ส่งผลให้พรรคเอเอฟดี สายขวาจัด ได้คะแนนในการเลือกตั้งล่าสุด เกือบร้อยละ 13 ด้านเศรษฐกิจ รัฐบาลผสมจะเพิ่ม การลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน ปรับปรุงเครือข่ายอินเทอร์เน็ต ปฏิรูประบบบำนาญ เพิ่มงบสนับสนุนการศึกษาและการเรียนรู้ตลอดชีวิต เพื่อให้ประชาชนอุ่นใจเรื่อง อนาคตการทำงาน ท่ามกลางกระแสโลกาภิวัตน์ และการใช้เครื่องมืออัตโนมัติ ทำงานแทนคน