สถานการณ์ต่างประเทศ

นางเซซิเลีย มัลม์สตรอม กรรมาธิการการค้าของคณะกรรมาธิการยุโรป (อีซี) ระบุว่า ยุโรปพร้อมเผชิญหน้าและตอบสนอง ต่อมาตรการข่มเหงทางการค้า จากบางประเทศ ที่ใช้นโยบายดังกล่าวขัดขวางกระแสโลกาภิวัฒน์ หรือใช้เป็นข้ออ้างเพื่อการกีดกันทางการค้า นางมัลม์สตรอม พบนายโรเบิร์ต ไลธิเซอร์ ผู้แทนเจรจาการค้าของสหรัฐ ที่กรุงบรัสเซลส์ ของเบลเยียม เมื่อวันเสาร์ แต่หลายฝ่ายมองเป็นการหารือที่เสียเวลา เพราะนายไลธิเซอร์ ปฏิเสธที่จะบอกว่า สหภาพยุโรป (อียู) จะได้รับการยกเว้นกำแพงภาษีเหล็กและอะลูมิเนียมหรือไม่ และอย่างไร ก่อนหน้านั้น นางมัลม์สตรอม ยืนยันการใช้มาตรการปกป้อง หรือเซฟการ์ด ภายในระยะเวลา 90 วัน ถ้ามาตรการกำแพงภาษีของสหรัฐมีผลบังคับใช้ นอกจากนี้ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัม ของสหรัฐ ยังส่ง นายวิลเบอร์ รอสส์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เยือนกรุงบรัสเซลส์ เพื่อหารือกับเจ้าหน้าที่ระดับสูงของอียู เกี่ยวกับการให้ยุโรปลดกำแพงภาษีสินค้านำเข้าจากสหรัฐฯ แลกกับการได้รับการยกเว้นภาษีเหล็กและอลูมิเนียม ที่จะมีผลบังคับใช้ภายใน 15 วัน นับแต่นายทรัมป์ลงนาม เมื่อ 8 มี.ค. ด้านนายเอ็นริโก้ บริวิโอ โฆษกอีซี กล่าวว่า นายทรัมป์ มีแนวคิดด้านนโยบายการค้าแบบลำเอียงอย่างชัดเจน ยืนยันอียูเป็นหนึ่งในตลาดการค้าเปิดกว้างที่สุดในโลก ส่วนนางคริสเตีย ฟรีแลนด์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศแคนาดา เตรียมเยือนกรุงวอชิงตัน ของสหรัฐ ในสัปดาห์นี้ เพื่อหารือกับเจ้าหน้าที่ระดับสูงของสหรัฐ ในเรื่องเดียวกัน แม้ทรัมป์ผ่อนผันให้แคนาดาและเม็กซิโก เพราะถ้าการเจรจาข้อตกลงการค้าไตรภาคี หรือ นาฟตา ไม่เป็นผล ทั้งสองประเทศอาจต้องเผชิญกำแพงภาษีนี้ด้วยเช่นกัน