สถานการณ์ต่างประเทศ

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ทวีตข้อความเมื่อวันเสาร์ว่า ถ้าสหภาพยุโรป หรือ อียู ยุติมาตรการกำแพงภาษีที่ไม่เป็นธรรมต่อสินค้าของสหรัฐ ก็จะยกเว้นมาตรการขึ้นภาษีเหล็กและอลูมิเนียมที่นำเข้าจากยุโรป แต่ในกรณีที่อีกฝ่ายยังคงดึงดันเดินหน้ามาตรการของตนต่อไป และยังเพิ่มกำแพงภาษีสินค้านำเข้าจากสหรัฐฯอีกหลายรายการ รถยนต์จากยุโรปจะเผชิญมาตรการตอบโต้แบบเดียวกันเพื่อความยุติธรรม ท่าทีของผู้นำสหรัฐมีขึ้น หลังกระทรวงเศรษฐกิจเยอรมนี ประเทศขนาดเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดของยุโรป และเป็นหนึ่งในผู้ส่งออกรถยนต์รายสำคัญของโลก ออกแถลงการณ์ประณามสหรัฐกีดกันทางการค้า และดูหมิ่นประเทศคู่ค้าในยุโรป ขณะที่นางเซซิเลีย มัลม์สตรอม กรรมาธิการการค้าของคณะกรรมาธิการยุโรป (อีซี) พบหารือเป็นการฉุกเฉินกับ นายโรเบิร์ต ไลธิเซอร์ ผู้แทนเจรจาการค้าของรัฐบาลสหรัฐ และนายฮิโรชิเงะ เซโกะ รมว.กระทรวงเศรษฐกิจ การค้า และอุตสาหกรรม ญี่ปุ่น ที่กรุงบรัสเซลส์ แต่แทบไม่มีความคืบหน้า โดยมัลม์สตรอม ระบุว่า สหรัฐยังไม่สามารถบอกได้ว่า อียูจะได้รับการยกเว้นกำแพงภาษีเหล็กหรือไม่ในอนาคต ด้านไลธิเซอร์และเซโกะ ปฏิเสธให้สัมภาษณ์ แต่แหล่งข่าวในอียู เปิดเผยว่าจะมีการหารือกันอีกครั้งภายในสัปดาห์นี้ มูลค่าส่งออกเหล็กและอลูมิเนียมจากอียู ไปยังสหรัฐ อยู่ที่ประมาณปีละ 5,000 ล้านยูโร (ราว 194,500 ล้านบาท) ซึ่งอาจลดลงมากกว่า 60% ถ้าต้องเผชิญมาตรการกำแพงภาษีของสหรัฐ