สถานการณ์ในประเทศ

พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงโครงการพัฒนา ระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก หรือ EEC ว่า เป็นนโยบายขับเคลื่อนเศรษฐกิจที่สำคัญ ของประเทศ โดยกำหนดให้ลงทุนใน 10 อุตสาหกรรมเป้าหมายในพื้นที่ของ จ.ฉะเชิงเทรา ชลบุรี และระยอง เหมือนในหลายประเทศ เช่น ปุตราจายาของมาเลเซีย และซิลิคอน วัลเลย์ของสหรัฐฯ ซึ่งทุกโครงการที่จะเข้ามาลงทุนต้องศึกษาความเป็นไปได้ เช่น ประโยชน์ที่จะได้รับ ผลกระทบที่เกิดกับชุมชน และการวางแนวทางการเยียวยา โดยก่อน อนุมัติโครงการต้องเปิดรับฟังความคิดเห็นของประชาชน รวมถึงเปิดเผยผลการศึกษา และร่างผังของเขตส่งเสริมที่จะขอรับการสนับสนุนด้วย ขณะนี้ยังมีความเข้าใจคลาดเคลื่อนว่ารัฐบาลให้สิทธินักลงทุนต่างชาติเช่าที่ดินถึง 99 ปี ถือเป็นการขายชาติ ทั้งที่ความจริงการให้สิทธิดังกล่าวไม่ได้แตกต่างไปจากสิทธิตาม พ.ร.บ.การเช่าอสังหาริมทรัพย์เพื่อพาณิชยกรรมและอุตสาหกรรม พ.ศ.2542 จึงไม่ได้ ให้สิทธิใหม่หรือให้สิทธิเพิ่มเติม เพราะเป็นสิทธิเดิมที่นักลงทุนต่างชาติเคยได้รับมา ตั้งแต่ปี 2542 แล้ว พล.ท.สรรเสริญ กล่าวต่อว่า สัญญาเช่าครั้งแรกจะไม่เกิน 50 ปี และขยายตัวได้ ตามความตกลงอีกไม่เกิน 49 ปี ซึ่งเป็นหลักปฏิบัติสากลที่ช่วยสร้างความเชื่อมั่น ให้กับนักลงทุนถึงความคุ้มค่า แต่การต่ออายุการเช่าที่ดิน จะไม่ใช่การต่อโดยอัตโนมัติ เพราะทุกโครงการจะต้องผ่านการทบทวนและต้องเป็นไปตามเงื่อนไขที่คณะกรรมการ บริหาร EEC กำหนด เช่น จำนวนเงินลงทุน การจ้างงาน ประโยชน์หรือผลกระทบที่เกิดขึ้น ฯลฯ ผู้ที่เข้ามาลงทุนจะต้องเป็นนิติบุคคลและต้องเช่าที่ดิน เพื่อประกอบกิจการในอุตสาหกรรม เป้าหมาย จะเช่าเพื่ออยู่อาศัยไม่ได้ และถือจำนวนที่ดินได้ไม่เกินที่กฎหมายส่งเสริมการลงทุน และกฎหมายการนิคมอุตสาหกรรมกำหนด หากไม่ประกอบกิจการ 3 ปี จะต้องขายสิทธิที่ดิน ภายใน 1 ปี ซึ่งนายกรัฐมนตรีระบุว่า ขณะนี้มีขบวนการสร้างข่าวบิดเบือน เพื่อให้เกิดความ เข้าใจผิดว่ารัฐบาลขายชาติให้กับคนต่างด้าว จึงเป็นห่วงเรื่องการรับข่าวสารของประชาชน โดยขอให้ทุกคนพิจารณาด้วยความรอบคอบ กำชับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งทำความเข้าใจ อย่างต่อเนื่อง พล.ท.สรรเสริญ กล่าวถึงการให้คนต่างด้าวสามารถซื้อคอนโดมิเนียมได้ โดยยกเว้น หลักเกณฑ์ตามกฎหมายว่าด้วยอาคารชุด จะอนุญาตเฉพาะนิติบุคคลหรือผู้เชี่ยวชาญ ที่เข้ามาลงทุน คนต่างด้าวทั่วไปไม่สามารถทำได้ และผู้ประกอบกิจการ ผู้เชี่ยวชาญ ผู้บริหารหรือผู้ชํานาญการ ต้องได้รับอนุญาตให้ทำงานจากเลขาธิการ EEC สำหรับ การชำระเงินของนักลงทุนเหล่านี้สามารถใช้เงินตราต่างประเทศภายในเขตส่งเสริมได้ และหากมีปัญหาเรื่องเสถียรภาพทางการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทยสามารถเข้ามา กำกับดูแลได้ทันที