สถานการณ์ต่างประเทศ

กระทรวงพาณิชย์จีน ออกแถลงการณ์หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ ลงนามคำสั่งเพิ่มกำแพงภาษีเหล็กและอลูมิเนียมจากต่างประเทศเป็น 25% และ 10% ตามลำดับ ว่า รัฐบาลจีนอยู่ระหว่างประเมินความเสียหายที่จะเป็นผลกระทบจากมาตรการ ดังกล่าวของสหรัฐ เพื่อนำไปสู่การออกมาตรการปกป้องสิทธิและผลประโยชน์ของตัวเอง ปัจจุบันจีนเป็นประเทศผู้ผลิตและส่งออกเหล็กรายใหญ่ที่สุดของโลก โดยครองส่วนแบ่ง ในตลาดมากถึงครึ่งหนึ่ง แต่สหรัฐสั่งซื้อสินค้าเหล่านี้จากจีนในสัดส่วนเพียง 1.1% ขณะที่สมาคมเหล็กและโลหะแห่งชาติจีน ออกแถลงการณ์ประณามการเพิ่มกำแพงภาษี ครั้งนี้ ว่าเป็นการกีดกันทางการค้าอย่างชัดเจน พร้อมทั้งเรียกร้องให้รัฐบาลจีน ตอบโต้ ด้วยการพุ่งเป้าไปที่ถ่านหิน สินค้าอิเล็กทรอนิกส์ และสินค้าเกษตรจากสหรัฐ ด้านกระทรวงเศรษฐกิจและการค้าของญี่ปุ่น ออกแถลงการณ์ว่า ความเคลื่อนไหว ของสหรัฐในเรื่องนี้ จะส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ระดับทวิภาคี "อย่างใหญ่หลวง" และรัฐบาลโตเกียวไม่เห็นด้วยอย่างยิ่งกับการกีดกันการค้าลักษณะนี้ ส่วนกระทรวงการค้าและอุตสาหกรรมของเกาหลีใต้ ประเมินว่า บริษัทฮุนได มอเตอร์ และเกีย มอเตอร์ ซึ่งเป็นผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ของประเทศ จะได้รับผลกระทบ มากที่สุด พร้อมทั้งยืนยันจะร้องเรียนต่อองค์การการค้าโลก