สถานการณ์ในประเทศ

ในการลงพื้นที่ประชุมคณะรัฐมนตรีนอกสถานที่อย่างเป็นทางการระหว่างวันที่ 5-6 มีนาคม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่องค์การสะพานปลา รับฟังการสาธิตการใช้เครื่องสแกนม่านตาเพื่อพิสูจน์สัญชาติแรงงานต่างด้าว โดยนายนายอนุรักษ์ ทศรัตน์ อธิบดีกรมการจัดหางาน กระทรวงแรงงาน รายงานว่า สาเหตุที่การขึ้นทะเบียนเป็นไปด้วยความล่าช้า เนื่องจากเครื่องสแกนม่านตา มีจำนวน ไม่เพียงพอ ทำให้ พล.อ.ประยุทธ์ แสดงอารมณ์หงุดหงิด พร้อมทุบโต๊ะระบายอารมณ์ และกล่าว ด้วยน้ำเสียงโมโหว่า ทำไมไม่ซื้อ แล้วบอกเครื่องมือไม่พอ พร้อมบอกว่าถ้าไม่เสร็จ ภายในเดือนมิถุนายน จะไม่ผ่อนผันอีกแล้ว ถ้าขึ้นทะเบียนไม่ครบ จับกุมอย่างเดียว ผู้สื่อรายงานว่า ภายหลังเดินเยี่ยมชมขั้นตอนการขึ้นทะเบียนแรงงานต่างด้าวเสร็จ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า อาจจะเสียงดังไปบ้าง แต่เพราะต่อสู้กับปัญหามา 3 ปีครึ่ง ขาดเหลืออะไรก็จะให้ แต่ต้องทำให้ถูกต้อง เพราะต้องแสดงเจตนารมณ์ของรัฐบาล ในการปัญหาแรงงานให้ได้ ถ้าไม่ช่วยกันแก้ แล้วถูกชัตดาวน์ทั้งหมด จะทำอย่างไร ตนเองไม่ต้องการให้คนเกลียด แต่ให้เข้าใจรัฐบาลด้วย ตนเองเป็นกำลังใจให้ทุกคน แม้จะเหนื่อย หลังจากนั้น พล.อ.ประยุทธ์ ทักทายแรงงานต่างด้าว พร้อมกำชับว่า ให้ทุกคน ช่วยกันรักษาผลประโยชน์ของประเทศ เพราะมีรายได้จากการทำประมงกว่า 2 แสนล้านบาท หากทำไม่ถูกต้อง ก็จะไปขายใครไม่ได้ รัฐบาลพยายามหามาตรการ และกฎหมาย ไม่ได้มุ่งหวังให้ประชาชนเดือดร้อน แต่เป็นกติกาสากล ขณะเดียวกัน พล.อ.ประยุทธ์ สอบถามเกี่ยวกับการติดตั้งระบบติดตามเรือว่า ได้ติดครบแล้วหรือไม่ หากตั้งใจทำให้เครื่องติดตาม-เสีย ต้องลงโทษให้หยุดเดินเรือ เพราะไม่ต้องการให้มีการโกง พล.อ.ประยุทธ์ ให้สัมภาษณ์ว่า การจัดตั้งเครื่องสแกนม่านตา ตนเองสั่งมานานแล้ว จึงต้องกวดขันและให้เร่งดำเนินการเร็วขึ้น วันนี้ที่ตนมาเพื่อให้ต่างประเทศและไอยูยู เห็นด้วย ทั้งนี้ ขอประชาชนอย่าต่อต้านรัฐบาลในการบังคับใช้กฎหมาย ต้องมา ร่วมมือกันดีกว่า ตนเองยอมไม่ได้ หากเจ้าหน้าที่ทำงานไม่สำเร็จ หรือไม่ทัน