สถานการณ์ในประเทศ

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้ความเห็นถึงการตั้งพรรคใหม่ของ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ประธานมูลนิธิมวลมหาประชาชนเพื่อการปฏิรูปประเทศไทยว่า มองว่าเป็นการเพิ่มทางเลือกให้ประชาชน เป็นปกติธรรมดา และไม่คิดว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ จะมาสมัครเป็นสมาชิกพรรค หรือจะมาเป็นผู้บริหารของพรรคนี้ ฉะนั้น เมื่อนายสุเทพมองว่า ไม่มีพรรคการเมืองที่จะมารองรับแนวทางการสนับสนุนนี้ นายสุเทพก็สามารถจะไปตั้งพรรค เพื่อผลักดันเป้าหมายได้ อย่างไรก็ตาม จุดร่วมของพรรคและนายสุเทพยังเหมือนเดิม ในการต่อต้านการคอร์รัปชั่น ต่อต้านระบอบเผด็จการที่แฝงตัวเข้ามาในประชาธิปไตย และต้องการเห็นการปฏิรูป แต่พรรค ปชป.เห็นว่า ที่ผ่านมา แนวคิด แนวทางของรัฐบาลปัจจุบันในการปฏิรูป ไม่ค่อยสอดคล้องกับการปฏิรูป ดังนั้น แม้จะพูดว่าสนับสนุนการปฏิรูปเหมือนกัน แต่แนวคิดเกี่ยวกับการปฏิรูปอาจจะมีความแตกต่างกัน แต่เป็นเรื่องธรรมดา ทุกพรรคก็มีจุดที่เหมือนกันและต่างกัน นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ยังกล่าวถึงฐานเสียง ที่จะต้องถูกแบ่งออกไปว่า ถือเป็นเรื่องธรรมดา พรรคการเมืองใหม่ก็ต้องมาแสวงหาการสนับสนุน สมาชิกพรรค ผู้สนับสนุนพรรค และผู้ที่เคยลงคะแนนให้พรรค ก็ต้องทบทวนการตัดสินใจอยู่เป็นระยะ ๆ อยู่แล้ว เป็นเรื่องปกติประชาธิปัตย์เผชิญกับภาวะอย่างนี้มาหลายครั้ง ส่วนหลังเลือกตั้งแล้วจะกลับมาร่วมงานกันได้อีกหรือไม่ หัวหน้า ปชป. ระบุว่าคำตอบยังเหมือนเดิม คือ ประชาธิปัตย์ต้องยึดอุดมการณ์และนโยบายของพรรค ที่เสนอต่อประชาชนเป็นตัวตั้ง ถ้าได้รับการสนับสนุนมาจากประชาชน ก็ต้องนำแนวทางนี้เป็นตัวตั้ง ใครจะมาทำงานกับพรรค ก็ต้องสนับสนุนแนวทางพรรค ถ้าไม่มาสนับสนุน ก็ตั้งรัฐบาลไม่ได้ แต่ถ้าพรรคอื่นได้รับการสนับสนุนมากกว่า ก็ต้องเจียมตัว และถ้านายสุเทพชนะแล้วหนุนคนนอกเป็นนายกฯ พรรคก็ต้องมาประชุมกันว่า จะทำอย่างไร จะสนับสนุนใครเป็นนายกรัฐมนตรี จะไปร่วมรัฐบาลหรือไม่ หรือจะเป็นฝ่ายค้าน