สถานการณ์ในประเทศ

ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ อาคารไปรณีย์ไทย นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ผู้ก่อตั้งอาบอบนวด วิคตอเรีย ซีเคร็ท ในปี 2532 เดินทางเข้ามาให้ข้อมูลต่อพนักงาน สอบสวน ดีเอสไอ ในฐานะพยานในคดีค้ามนุษย์และค้าประเวณีในสถานอาบอบนวด วิคตอเรีย ซีเคร็ท เมื่อเดินทางมาถึงนายชูวิทย์ มีสีหน้ายิ้มแย้ม แต่ไม่ได้ให้สัมภาษณ์ใดๆกับสื่อมวลชน พ.ต.ท.สุภัทร์ ธรรมธนารักษ์ ผู้อำนวยการกองคดีค้ามนุษย์ กล่าวถึงการเชิญนายชูวิทย์ มาให้ข้อมูลกับพนักงานสอบสวน สำนวนคดีค้ามนุษย์และค้าประเวณีในสถานอาบอบนวด วิคตอเรีย ว่า พนักงานอัยการที่ร่วมสอบสวน มีความเห็นว่าให้เชิญตัวนายชูวิทย์ มาสอบถาม ข้อมูลเพิ่มเติมเรื่องคดีค้ามนุษย์ ประเด็นที่มีการชักชวนเด็กหญิงเชื้อสายไทยใหญ่ สัญชาติ เมียนมา ขณะเกิดเหตุอายุไม่ถึง 15 ปี พาข้ามด่านจาก อ.แม่สาย จ.เชียงราย มาเปิดบริสุทธิ์ ที่กรุงเทพ ก่อนส่งตัวเด็กไปขายบริการทางเพศต่อที่ประเทศมาเลเซีย ส่วนรายละเอียด การสอบสวนวันนี้ยังไม่ขอเปิดเผยข้มูล เพื่อไม่ให้เสียรูปคดี ทั้งนี้ ยืนยันว่าการทำงานในคดีนี้ ดีเอสไอ ยังคงทำงานอย่างต่อเนื่อง ไม่ได้ปล่อยให้ เรื่องเงียบ และยังคงประสานการทำงานกับหน่วยงานต่างๆ โดยเฉพาะเรื่องของการ ตรวจสอบเส้นทางการเงิน และยึดอายัดทรัพย์สินของบุคคลที่เกี่ยวข้องในคดีค้ามนุษย์ นอกจากนี้ ดีเอสไอยังได้ประสานข้อมูลกับสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน เพื่อเดินหน้าอายัดทรัพย์อย่างต่อเนื่อง ด้าน พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีดีเอสไอ กล่าวว่า ได้กำชับไปยัง พ.ต.ท.สุภัทร์ ให้เร่งรัด การสอบสวนคดีค้ามนุษย์ เน้นเฉพาะส่วนที่มีพยานหลักฐานชัดเจน และเกี่ยวข้องโดยตรง กับผู้ต้องหาที่อยู่ระหว่างการฝากขัง ในส่วนของเส้นทางการเงิน ขอให้สอบสวนเฉพาะ ธุรกรรมทางการเงินที่มีหลักฐานชัดเจนเช่นกัน เพื่อจะได้สรุปสำนวนสั่งฟ้องในคดีค้ามนุษย์ เด็กหญิงต่างด้าวที่ถูกนำมาค้าประเวณีตั้งแต่อายุ 12 เนื่องจากขณะนี้ผู้ต้องหากลุ่มคน เชียร์แขกของ นายบุญทรัพย์ อมรรัตนาศิริ หรือ ป๋ากบ หัวหน้าพนักงานเชียร์แขก สถาน อาบอบนวด วิคตอเรีย ซีเครท ถูกฝากขังอยู่ในเรือนจำ ในชั้นสอบสวนมีเวลาฝากขัง 84 วัน ถือเป็นกรอบเวลาที่จำเป็นต้องสรุปสำนวนสั่งฟ้องให้ทันกำหนด