สถานการณ์ในประเทศ

นายสมชัย ศรีสุทธิยากร กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ไม่เชื่อว่า จะมีใบสั่งให้สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ไม่เห็นชอบบุคคลที่ได้รับการเสนอชื่อเป็น กกต.ทั้ง 7 คน อย่างที่วิจารณ์กัน เพราะถ้าดูจากคะแนนมีทั้งสูงสุดและต่ำสุด ค่อนข้างธรรมชาติมาก ถ้ามีใบสั่งคะแนนที่ได้จะต้องเกาะกลุ่มกันมากกว่า แต่อาจเป็นเพราะเป็นการลงคะแนนลับด้วย ทำให้ สนช. มีเสรีภาพ ส่วนสาเหตุที่ประชุม สนช.ไม่รับทั้งหมด คิดว่าประธาน สนช.คงจะพูดชี้แจงแทนสมาชิกทุกคนไม่ได้ เพราะเป็นการลงคะแนนลับ ไม่รู้ว่าสมาชิกแต่ละคนคิดอย่างไร แต่สมควรที่ประธาน สนช.จะต้องวิเคราะห์ให้ได้ เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาการไม่รับรองในรอบใหม่ นายสมชัย วิเคราะห์เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า 1.เป็นปัญหาในกระบวนการสรรหาตามกฎหมายใหม่ ที่กำหนดให้การลงคะแนนทั้งของ คณะกรรมการสรรหาและที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกา ต้องทำโดยเปิดเผย แต่ทั้ง 2 ส่วน ยังไม่ได้ใช้วิธีการลงคะแนนโดยเปิดเผยตามที่กฎหมายกำหนด จึงควรจะต้องใช้บทเรียนนี้ในการพิจารณาทบทวน เพราะเชื่อว่าเป็นส่วนที่ สนช.มองว่าเป็นปัญหา จนไม่อาจลงมติรับรองได้ 2.เป็นปัญหาของผู้เขียนกฎกติกา ที่มุ่งหมายให้ดีเลิศจนเกินความเป็นจริง เพราะถ้ามองว่าผู้ได้รับการเสนอชื่อมีปัญหาเรื่องความรู้ ความสามารถ มือไม่ถึงที่จะมารับผิดชอบงานเลือกตั้ง จะไปโทษผู้ได้รับเสนอชื่อทั้ง 7 คนไม่ได้ หรือจะโทษคณะกรรมการสรรหาก็ไม่ควร เพราะทำภายใต้กรอบกติกาที่มี ดังนั้น ถ้าจะโทษต้องโทษผู้เขียนกติกา นายสมชัย ศรีสุทธิยากร กล่าวต่อว่า การสรรหารอบใหม่ คณะกรรมการสรรหาควรจะยึดมติการตีความ “หัวหน้าส่วนราชการ” ว่าผู้สมัครที่เป็น ทหาร ตำรวจ จะต้องเป็น ผู้บัญชาการทหารบก ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และดำรงตำแหน่งมาไม่น้อยกว่า 5 ปีไว้ ไม่เพียงคุณสมบัติ ยังต้องไม่ทำงานหรือรับตำแหน่งใดในขณะสรรหา นอกจากนี้ ยังต้องไม่เกี่ยวข้องหรือเคยทำงานกับองค์กรอิสระใด ๆ ถือเป็น “มหาเทพ” จึงได้คนที่เกษียณอายุราชการแล้วเท่านั้น วันนี้ ทำอะไรไม่ได้แล้ว เพราะต้องไปแก้ไขกฎหมาย โจทย์ใหญ่ คือ ทำอย่างไรจะประดับประคอบสถานการณ์ ให้การสรรหาได้คนพอใช้ได้หรือดีระดับหนึ่ง ต้องทำให้คนยอมรับได้ ซึ่งเป็นโจทย์ที่กรรมการสรรหาชุดปัจจุบันต้องทำ จึงไม่ควรที่สังคมจะไปโทษคณะกรรมการสรรหา อย่าไปทำให้น้อยใจจนลาออก อย่างไรก็ตาม นายสมชัย ยืนยันว่า กกต.จะทำหน้าที่อย่างเต็มที่ สิ่งที่คิดว่าจะรอชุดใหม่มาดำเนินการคงรอไม่ได้ และจะไม่มีผลกระทบต่อกับการเลือกตั้งทุกประเภท โดยในประชุม กกต. วันที่ 27 ก.พ.นี้ จะต้องหารือกำหนดท่าที เรื่องการคัดเลือก เลขาธิการ กกต. และสิ่งที่ กังวล คือ กกต.ชุดใหม่มาช้าเท่าไหร่ เวลาที่จะเหลือจากการเตรียมการเลือกตั้งก็จะน้อยลง รากเหง้าของปัญหา คือ “ไม่ควรเซตซีโร่ กกต.ชุดนี้” ถ้าไม่เซตซีโร่แต่แรก ปัญหาวันนี้คงไม่เกิด และจะไม่มีปัญหาเรื่องการเปลี่ยนผ่าน