SMART NEWS

ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม ประชุมร่วมแก้ไขปัญหาการขนย้ายกากแคดเมียม 19 เม.ย. 67 11:04 น.

สถานการณ์ในประเทศ

อัยการฟ้องแล้วอดีต ผอ.พศ. และอดีตเจ้าคณะอำเภอชนแดน ทุจริตเงินทอนวัด 28 ล้าน

views

นายประยุทธ เพชรคุณ รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด เปิดเผยความคืบหน้าการพิจารณา สั่งคดีเงินทอนวัดจำนวน 28 ล้านบาท ว่า หลังจากเมื่อวันที่ 1 ก.พ.ที่ผ่านมา พนักงานสอบสวน กองบังคับปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการทุจริตและประพฤติมิชอบ หรือ บก.ปปป. ได้ส่งสำนวนพร้อมความเห็นสมควรสั่งฟ้อง นายนพรัตน์ เบญจวัฒนานันท์ อายุ 59 ปี อดีตผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ หรือ พศ. ผู้ต้องหาที่ 1 (หลบหนี ), นายฉัตรชัย ชูเชื้อ อายุ 53 ปี ผู้อำนวยการ พศ.ปทุมธานี ผู้ต้องหาที่ 2 ซึ่งได้ประกันตัวในชั้นฝากขัง และนายสมเกียรติ ขันทอง หรือ อดีตพระครูกิตติ พัชรคุณ อายุ 54 ปี อดีตเจ้าคณะอำเภอชนแดน จ.เพชรบูรณ์ และเจ้าอาวาสวัดลาดแค ผู้ต้องหาที่ 3 ซึ่งไม่ได้รับการประกันตัวในชั้นฝากขัง ฐานร่วมกันสมคบฟอกเงิน ตาม พ.ร.บ.ป้องกันและ ปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ.2542 เมื่อวานนี้(22 ก.พ.) ซึ่งครบกำหนดฝากขังวันสุดท้าย คณะทำงานอัยการสำนักงานคดี ปราบปรามการทุจริต ได้มีความเห็นสั่งฟ้อง นายนพรัตน์ และอดีตพระครูกิตติ พัชรคุณ ฐานร่วมกันสมคบฟอกเงิน แต่เนื่องจากนายนพรัตน์ ซึ่งหลบหนีระหว่างชั้นสอบสวน พนักงานสอบสวนได้ออกหมายจับผู้ต้องหาไว้แล้ว ดังนั้น อัยการจึงแจ้งให้พนักงาน สอบสวนติดตามตัวนายนพรัตน์ มายื่นฟ้องภายในอายุความ 20 ปี นับจากวันเกิดเหตุ ซึ่งจะครบกำหนด วันที่ 21 ม.ค.2579 ส่วนอดีตพระครูกิตติ ที่อัยการได้ยื่นสำนวนฟ้องเป็นจำเลยต่อศาลอาญาคดีทุจริตและ ประพฤติมิชอบกลาง เมื่อวันที่ 22 ก.พ. ต่อศาลอาญาคดีทุจริตฯ สำหรับ นายฉัตรชัย ซึ่งขณะเกิดเหตุมีตำแหน่งผู้อำนวยการ พศ.นั้น คณะทำงานอัยการ มีความเห็นสั่งไม่ฟ้องเนื่องจากพยานหลักฐานยังไม่เพียงพอให้ฟ้อง โดยขณะนี้ขั้นตอน อยู่ระหว่างที่อัยการส่งความเห็นดังกล่าวกลับไปให้ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เพื่อทำความเห็นตามขั้นตอนกฎหมายว่าจะมีความเห็นตรงกันหรือเห็นแย้งกับคำสั่งคดี ของอัยการ ซึ่งหากผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติเห็นแย้ง ก็จะต้องส่งสำนวนและความเห็นนั้น กลับมาให้อัยการสูงสุดพิจารณาชี้ขาดว่าจะฟ้องนายฉัตรชัยหรือไม่ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังพนักงานอัยการโจทก์ ยื่นฟ้องอดีตพระครูกิตติ พัชรคุณ เป็นจำเลยในความผิดฐานร่วมกันสมคบฟอกเงิน ต่อศาลอาญาคดีทุจริตฯแล้ว ศาลได้ ประทับรับคำฟ้องไว้เป็นคดีหมายเลขดำ อท.38/2561 โดยศาลได้สอบคำให้การจำเลย ในเบื้องต้นแล้ว จำเลยให้การปฏิเสธ ต่อสู้คดี ศาลจึงนัดตรวจหลักฐานในคดีอีกครั้ง ในวันที่ 19 มี.ค.นี้ เวลา 09.00 น. และวันนี้ ญาติของอดีตพระครูกิตติ พัชรคุณ ได้ยื่นคำร้องพร้อมหลักทรัพย์เป็นเงินสด จำนวน 700,000 บาท ขอปล่อยชั่วคราวในชั้นพิจารณาคดี ขณะที่ศาลพิจารณาแล้ว กำหนดวงเงินเพื่อใช้ยื่นเป็นหลักทรัพย์ จำนวน 1.5 ล้านบาท กระทั่งหมดเวลาทำการ 16.30 น. ไม่ปรากฏว่า มีญาติของจำเลยนำหลักทรัพย์จำนวน 1.5 ล้านบาท มายื่นขอ ปล่อยชั่วคราว อดีตพระครูกิตติ พัชรคุณ จำเลย จึงต้องถูกคุมขังในเรือนจำพิเศษกรุงเทพต่อไป

TW-headbar